ประโยคที่เหมือนกันทุกคำส่งผลให้หัวเล็กๆ ซุกลงกับหน้าอกหนาซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ ความสุขแผ่ซ่านไปทั้งร่างกายก่อนจะผ่อนตัวให้อีกคนพาขึ้นชั้นสองไป
ยวบ...
ร่างเล็กที่ถูกวางลงบนที่นอนกว้างที่ไร้สีสันทำให้รอยยับที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อคนที่ควรนอนนิ่งๆ กลับกำผ้าปูแน่น สายตาหลุกหลิกที่แสดงออกถึงความประหม่าอย่างชัดเจน นานแค่ไหนแล้วที่ที่พี่ทงเฮไม่ได้สัมผัสเขาจนรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้.....
มือหนาเกลี่ยแก้มใสเบาๆ จับจ้องดวงหน้าที่เขินอายอย่างเป็นธรรมชาติ แรงดึงดูดจากกลีบปากสีหวานทำให้ระยะห่างที่มีแคบลง...จนไร้ช่องว่าง สัมผัสอ่อนโยนที่ค้อยๆแตะชิมเรียวปากเล็กทำให้ฮยอกแจไม่สามารถขัดขืนได้ เมื่อมันเป็นความสุขที่ตัวเองโหยหามานานเช่นกัน
กลีบปากที่บรรจงกดลงแนบกับเนื้ออ่อนที่กลิ่นกายฟุ้งหอม ยิ่งเร้าให้ทงเฮจับจองแทบทุกตารางผิว
เนื้อผ้าที่บดบังเรือนร่างค่อยๆเปิดเผยเนื้อในออกทีละนิดจนเนื้อผ้าไนลอนตัวสวยที่อวดกายบางกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
“อื้อ..” เส้นเสียงที่เขาหลงลืมมันกลับขับกล่อมเขาตัวความน่ารัก ไม่ต่างจากกายที่บิดเร้าไปตามแรงอารมณ์ ความน่ารักที่ไม่ต้องปั้นแต่ ความอ่อนหวานที่ไม่ต้องเอ่ยขอแต่กลับมีให้เขาเสมอ
ทงเฮผละกายออกมาใบหน้าที่เจือสีแดงเรื่อ ดวงตาปรืออ่อน ริมฝีปากที่อ้าน้อยๆปลดปล่อยลมหายใจ
คนที่ละเลยฮยอกแจไปได้....มันโคตรจะโง่เลยสินะ
ความรักที่ซื่อสัตย์เพียงเขามาตลอด ความห่วงใยที่เคียงข้างกันมาเสมอทำไมเขาถึงไม่รู้จักพอ พอ....และมีความสุขกับสิ่งที่มี กลับไปเผลอไผลกับสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส ไปหลงผิดกับคนที่ไม่ได้อยู่กับเขาในวันที่อ่อนแอ
เรือนกายหนาที่ปลดเปลื้องอาภรณ์ตัวเองออกจนเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน ผลักดันให้ใบหน้าหวานต้องเสออกข้าง หากจะบอกว่าไม่ชินก็ไม่แปลก เมื่อกิจกรรมรักที่ร้างมานาน แต่ที่ตื่นเต้นยิ่งกว่านั้น คือสายตาของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน ฉุดรั้งให้ใจดวงน้อยแอบหวังไปไกล
ถ้าทุกอย่างไม่สายไป.....ถ้าใจดวงนี้ยังพอมีเขาหลงเหลืออยู่ มันอาจจะกลับมาเต็มเหมือนเดิมได้ใช่ไหม?
คำถามที่ทำให้แขนเรียวเล็กยื่นออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนคล้องเข้ากับลำคอของอีกคน ทงเฮที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้รั้งกายฝืนไว้ ได้แต่โน้มลงมาตามที่คนตัวเล็กต้องการ ด้วยอยากรู้.....
อยากรู้ว่าคนที่แสดงออกว่าขลาดเขินเช่นนี้จะทำอะไร
ทันทีที่ระยะห่างใกล้เข้ามาจนพอดี กลีบปากเรียวเป็นกระจับก็แนบเข้ากับส่วนเดียวกันที่ของทงเฮ สัมผัสเบาๆ นุ่มๆ ที่แสดงความออดอ้อนที่ไม่มากไม่น้อยเกินไป
“พี่ทงเฮ....” เสียงเบาๆที่เอื้อนเอ่ยเรียกทำให้ดวงตาคู่คมเลิกขึ้นราวกับถามในคำเอ่ยขาน
“....กอด....ฮยอกนะ”
คำพูดแผ่วเบาที่มาพร้อมกับสายตาหวาดหวั่น แม้เรือนร่างของเราจะเปลือยเปล่า แต่คำพูดที่ราวกับเอ่ยขอยิ่งทำให้ทงเฮจุกจนพูดอะไรไม่ออก
หากเขาทำร้ายฮยอกแจด้วยความเฉยชามาตลอดเดือน ตอนนี้เขาก็ไม่ต่างกัน เพราะฮยอกแจกลับทำร้ายเขาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ
คำพูดที่บอกว่าเข้าเลวเพียงใด
ทงเฮแนบกายลงสัมผัสป้อนทุกความรู้สึกที่เปี่ยมในตัวให้ด้วยความอ่อนโยน แตะสัมผัสเนิบช้าจนคนตัวเล็กต้องแอ่นกายเข้าหา ยอดอกเล็กที่ตึงชัน ถูกดูดกลืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับมือหน้าที่ฟอนเฟ้นไปทั่วกาย
“อืมมม”
ช่องทางรักถูกกดแทรกเข้ามาช้าๆ ดวงหน้าที่ทรมานระคนสุขทำให้ทงเฮจ้องมองอย่างไม่อาจละสายตา แล้วค่อยๆกดแทรกกายเข้าไปช้าๆ รับสัมผัสที่กระชับให้เขาเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากที่ขบเม้มถูกอีกฝ่าบดคลึงช้าๆก่อนจะเพิ่มแรงลงไปยามที่ถอนกายออกแล้วกดซ้ำลงมาอีกครั้ง
จังหวะเข้าออกที่เนิบช้าค่อยๆเพิ่มความร้อนแรงยิ่งขึ้น เมื่อฮยอกแจเองก็ไม่สามารถหักห้ามความต้องการที่มีต่อคนที่รักได้
“อื้อ...อ่าห์.....”
เรือนร่างที่แนบสนิทไปทุกอณูพร้อมกับเส้นเสียงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เคล้าคลอไปพร้อมกันจังหวะที่เร่งเร้าจนเตียงหนาสั่นไหวไปตามแรงถาโถมของกายหนา จวบจนทุกหยาดหยดของอารมณ์ได้ปลดปล่อยเข้าไปจนหมดสิ้น
ทงเฮทิ้งกายลงแนบด้วยความสึกอุ่นใจ ความรู้สึกที่เป็นของกันและกันที่ไม่ใช่เพียงความต้องการทางร่างกายเพียงอย่างเดียว
ร่างเล็กที่จมดิ่งเข้านิทราไปแล้วทำให้ทงเฮลุกขึ้นไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดล้างคราบรักตามร่างกายให้สบายตัวก่อนจะห่มผ้าแล้วแทรกกายเข้าไปด้วยกัน
แขนหนาเอื้อมไปกอดเอวบางไว้ด้วยความรู้สึกที่ไม่ต้องฝืน อาจเป็นเพราะบทรักที่เพิ่งจบสิ้น ทำให้ไม่รู้สึกแปลกๆที่ต้องสัมผัสกายกันแบบนี้ หรืออาจเป็นเพราะความรู้สึกที่เคยชินแล้วเมื่อตลอดทั้งวันเขาได้ใกล้ชิดกับฮยอกแจจนความรู้สึกเฉยชาที่มีได้มลายลงไป ยิ่งคำรักที่แฝงไว้ด้วยความเจ็บปวดที่ละเมอขึ้นมาเบาๆ ยิ่งทำให้เขาตาสว่าง
“ฮยอกรักพี่.....”
หากจะบอกว่า แม้จะเห็นหน้า อยู่ด้วยกันทุกวัน....แต่ไม่ใส่ใจความรู้สึกกันก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าที่รู้จักกันดี ความจริงข้อนี้คงไม่ต้องพิสูจน์
“พี่ขอโทษ.....ขอโทษจริงๆ”
ครบ 100% นะคะ ^^ อย่าโกรธพี่ทงเฮเลยนะ T^T