ฟึบ
ฮยอกแจถูกผลักจนลงไปนอนบนที่นอนกว้าง ดวงตาที่ไม่ได้ฉายแววความตระหนกยิ่งทำให้คนที่ตามลงมาทาบทับยิ่งสนุกกับร่างเล็กที่เรียนรู้และตอบสนองได้รวดเร็ว
กลิ่นควันบุหรี่ที่อบอวบไปทั้งห้องเจือจางในอากาศและอัดแน่นอยู่บริเวณเตียงนอน เมื่อปลายนิ้วแกร่งยังคีบม้วนกระดาษนั้นไม่ห่าง
“ถอดเสื้อสิ” คำสั่งจากคนด้านบนที่ฮยอกแจทำตามโดยไม่ขัดขืน
ทุกท่าทางทุกการกระทำที่ทงเฮมองแล้วพอใจ ฮยอกแจเรียนรู้ได้ไวและทำได้ดี
ดวงตาคมกวาดมองแผ่นอกบางนวลเนียนไร้ร่องรอยใดๆ
ราวกับว่าแผ่นอกนี้ไม่เคยมีสิ่งใดประดับอยู่ หากแต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น...
“เดี๋ยวฉันจะเติมรอยให้...หายไปหมดแล้วนิ”
“อะ..อือ..”
ว่าจบจมูกคมก็ซุกไซร้ไปบนแผ่นอกขาว ตุ้มแต้มสีหวานที่ล่อลวงให้สนใจมันเป็นอันดับแรก
ปลายลิ้นร้อนแตะชิมน้อยๆ ไล้วนรอบฐานอกอย่างไม่รีบร้อน
การกระทำที่เชื่องช้าเร้าให้คนข้างใต้บิดกายรับกับสัมผัสหวามทุกครั้งที่ถูกแตะสัมผัส
“ทะ..ทงเฮ...อีก..” เสียงสั่นพร่าเอ่ยบอกพลางปรือตามอง กลิ่นไอที่เจือจางลงที่ฮยอกแจขอให้เพิ่มเติมให้
“หึ..ชอบจริงๆสินะ” ทงเฮละใบหน้าออกจากแผ่นอกหวาน ดวงตาที่บ่งบอกว่าชอบกับคำขอนั้นมากแค่ไหนจับจ้องใบหน้าดวงตาอีกฝ่ายอย่างไม่ปกปิด
เมื่อเสียงหวานที่เอ่ยขอสั้นๆที่รู้กันดี ทงเฮจรดปลายนิ้วที่คีบมวนบุหรี่ไว้แนบกับปากดูดควันจากการเผาไหม้เอามากักเก็บก่อนจะประกบลงไปบนกลีบปากนุ่มอีกครั้ง
ลมหายใจที่แทรกเข้าไปพร้อมควันจาง ดวงตาหวานปรือมองอย่างพอใจ
มันไม่ใช่การมอบลมหายใจเพื่อใครสักคนที่ต้องการชีวิตรอด แต่มันเปรียบเสมือนการมอบลมหายใจต่อเติมให้รสรักครั้งนี้ทวีความหลงใหลซึ่งกันและกันมากขึ้นและมากยิ่งขึ้น
ก่อนที่ทงเฮจะถดใบหน้าลงไปสนใจเนื้อเนียนที่ผละออกไปเมื่อครู่
จ๊วบ
รอยแล้วรอยเล่าที่ปากได้รูปจงใจดูดเม้ม ลากลิ้นสร้างรอยรักเห็นได้ชัดส่วนร่างเล็กที่นอนนิ่งๆ
ก่อนจะเผยอปากน้อยๆ ผ่อนลมหายใจปล่อยควันออกมา ควันขาวค่อยๆ
ลอยขึ้นกลิ่นหอมที่ยิ่งมอมเมาให้เคลิบเคลิ้ม รอยยิ้มบางๆทีปรากฏบนใบหน้า เขาชอบทุกอย่างที่เป็น กลิ่นหอมที่ลอยวนรอบๆตัว
ความรู้สึกที่ซ่านไปทั้งกาย รวมถึงสายตาและสัมผัสจากที่ทงเฮมอบให้
มันอาจจะแปลกที่เขาไม่สูบมัน..แต่เขาชอบที่จะได้กลิ่นไอมันผ่านทงเฮเป็นตัวกลาง
“อือ..” แผ่นท้องบางหดเกร็งไปตามการสัมผัส
การแขม่วเกร็งที่ทำให้คนด้านบนแตะย้ำไปเบาๆพร้อมลมหายใจร้อน
“อึก..อ่าห์” ฮยอกแจเชิดใบหน้ากัดปากเล็กน้อย การกระทำที่เป็นไปตามอารมณ์โดยไม่ต้องปรุงแต่ง
“นายมัน...” เสียงราวกับความอดกลั้นใกล้จะพังลง
ทั้งๆที่ควันที่ลอยฟุ้งในมือทำให้เขาอิ่มเอมกับรสรักได้เรื่อยๆ เสียงต่ำที่คำรามพูดพร้อมกับความเสียวซ่านจะกระจายไปทั้งร่างเล็ก
“อ๊ะ..แรง...” จากที่ปลายลิ้นค่อยๆไล้วน ทงเฮกลับขบเม้มยอดอกสีหวานราวกับหิวกระหาย
ปลายลิ้นร้อนก็ตวัดเลียมันแรงๆ จนแข็งตึงทั้งขบเม้มดูดดุน จนฮยอกแจได้แต่ครางเสียงพร่าพร้อมบิดกายบนที่นอนนุ่ม
ความรู้สึกที่เกิดที่ทำให้รู้สึกดีจนไม่อาจห้ามความต้องการ แผ่นอกเล็กแอ่นขึ้นราวกับเชิญชวนให้ทำมันแรงยิ่งกว่านี้ ความร้อนในกาย กลิ่นควันที่ทงเฮละใบหน้าไปสูบมันอยู่เรื่อยๆ แล้วเป่ามันรดรินไปบนกายขาวเนียน
ควันขาวที่โอบรอบรัดตรึงให้สองกายยิ่งแนบสนิท
หากฮยอกแจชอบกลิ่นของมันยามร่วมรัก เขาก็ชอบ...ชอบเฝ้ามองใบหน้าที่กำลังเคลิบเคลิ้มของคนๆนี้
การคบกันแบบไม่ทันตั้งตัว
แต่ความรู้สึกมันก็ค่อยๆเริ่มผสานเข้าหากันจนวนนี้ มันแนบสนิทจะแทบไร้ช่องว่าง
มือหนารูดบ็อกเซอร์เนื้อบางของตนเองให้หลุดไปกองที่ขา พร้อมๆกับบ็อกเซอร์ตัวเล็กของฮยอกแจเช่นกัน ทำให้เวลานี้เนื้อตัวเปลือยเปล่าแนบสนิทกันโดยไม่มีอะไรขวางกั้น
สัดส่วนกลางลำตัวที่เวลานี้ฟ้องชัดถึงแรงอารมณ์ ทงเฮขยับกายจนใบหน้าลงไปเสมอ
“ขอหมอนให้ฉันใบ” คำพูดที่ฮยอกแจเอมมือหยิบหมอนเล็กส่งให้ ก่อนจะรู้ว่าทงเฮเอามันไปทำไม
สะโพกเล็กถูกยกขึ้นก่อนที่จะแทรกหมอนใบดังกล่าวลงไปรองรับ ส่วนล่างที่มีหมอนค้ำให้มันแอ่นขึ้น ท่วงท่าทาอายที่แม้จะรู้สึกเขินแต่อารมณ์ที่ครุกรุ่นกลับมีมากกว่า
แกนกายที่เด่นหราอยู่กลางลำตัวกายเล็ก ที่เวลานี้แอ่นขึ้นราวกับเสนอให้เขาลิ้มลอง มือหนาขยับมันช้าๆ แล้วเสียงครางพร่าก็ค่อยๆดังขึ้นทีละน้อยยามที่ความอุ่นชื้นจะครอบครองลงมา
ลิ้นร้อนไล้เลียตวัดชิมไปทั่วทั้งความยาว ขณะที่มืออีกข้างที่ว่างก็เคล้นคลึงเบาๆเร่งเร้าความต้องการที่พุ่งสูง
ร่างเล็กกระสับกระส่ายบิดเร่าบนที่นอนอย่างไม่สามารถอดกลั้น เสียงพร่าร้องสั่นทุกสั่นกับทุกสัมผัสที่ย้ำลงมา
“ฮื่อ..อ๊ะ..ทะ..ทงเฮ..ขะ..เข้ามา..เถอะ”
มือเล็กเอื้อมมาจับที่ข้อแขนแกร่ง เสียงอ้อนขอที่ทงเฮไม่ต้องรอให้ร่างเล็กต้องพูดซ้ำ
ใบหน้าคมผละออกจากแกนกายที่สั่นระริก แล้วป้ายน้ำลายลงตรงช่องทางรัก
รูดแท่งเนื้อร้อนที่ปวดร้าวของตัวเองในยามนี้จ่อเข้าโดยไม่ต้องมากพิธี
ฟู่...
เสียงลมที่เป่าออกจากปากพร้อมกับควันสีขาว ภาพที่ฮยอกแจมองมันด้วยความหลงใหล
ใบหน้าคมคร้ามที่จมดิ่งไปกับความต้องการของร่างกาย ดวงตากร้าวทว่าแฝงความอ่อนโยน แสงสว่างเพียงเล็กน้อยที่ยิ่งทำให้คนที่อยู่เหนือร่างเขานั้นยิ่งทวีความน่าค้นหาและดูร้อนแรงในเวลาเดียวกัน
อาจจะไม่นานที่ได้รู้จักกัน แม้ความสัมพันธ์ทางร่างกายจะไปไวกว่าความรู้สึก
แต่เวลานี้ ความรู้สึกภายในมันกลับตามมาเสมอกันแล้ว
“อึ้ก...”
เสียงที่หลุดรอดออกมายามที่รู้สึกถึงความคับแน่นกำลังสอดเข้ามาในกาย
มันอาจจะเป็นรสนิยมความชอบที่เหมือนกันที่เขาทั้งสองคนไม่ชอบเจลนั่น
มันลื่นและช่วยให้ไม่เจ็บมากแต่เขาชอบการเสียดสีแบบนี้มากกว่า
ทงเฮแทรกกายเข้าไปในช่องทางนุ่มนั้นจนสุด ใบหน้าของฮยอกแจที่บอกถึงความคับแน่นที่จับจ้องให้ทงเฮไม่อาจละสายตา
กายหนากดแช่กายทิ้งไว้แบบนั้น ก่อนจะเอ่ยขอ
“ลุกขึ้นมาได้ไหม” เสียงนุ่มเอ่ยถามโดยไม่ได้บังคับ
“อะ..อื้อ” ใบหน้าเล็กพยักรับ ก่อนจะผล่อยตัวให้อีกฝ่ายตัวดึงขึ้น
มือหนาประคองเอวเล็กเบาๆรั้งให้ฮยอกแจลุกขึ้นมานั่ง โดยที่ขาเล็กทั้งสองขาโอบรอบเอวหนาไว้ไม่ให้กายหลุดออกจากกัน
ท่วงท่าที่ฮยอกแจต้องเอื้อมมาคล้องรอบลำคอหนาเพื่อประคองตัว
“อ้าปากสิ”
เมื่ออยู่ในท่าที่ต้องการเสียงทุ้มก็เอ่ยบอก แน่นอนว่าฮยอกแจรับรู้ได้ทันที
กลีบปากนุ่มแยกออกจากกัน ดวงตาหวานหลับพริ้มคอย
ก่อนที่จะรู้สึกถึงกลิ่นหวานที่คุ้นเคยแทรกเข้ามาภายในโพรงปากพร้อมกับช่วงล่างที่เริ่มขยับ
“อื้อ...”
สองกายที่หลอมรวมผสานเข้าหากันเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะ ก้นกรองบุหรี่ถูกขยี้ทิ้งลง
มือหนาละมาโอบเอวเล็กเคล้นคลึงก้นนุ่มพร้อมกับบทรักที่จะเริ่มจริงจังเสียที
จมูกคมซุกไซร้ไปตามซอกคอขาว แลบเลียขบกัดฝากรอยรักจนผิวขาวขึ้นสีช้ำไม่ว่างเว้น
“อ๊ะ...อึก..อ่าห์”
เสียงหวานครางพร่าง ยามที่ตัวขยับไปตามแรกที่อีกฝ่ายดันเข้ามา
เสียงหวานที่ครางแผ่วข้างๆใบหู
“อืม...ข้างในของนายมันรัด”
ความคับแน่นที่ไร้ตัวช่วยใดๆ ทำให้ทุกการขยับยิ่งเสียดสีและรู้สึกร้อนไปทั้งกาย
“อื้อ...เสียว...นาย....มะเมื่อย..ไหม”
เสียงหวานกระท่อนกระแท่นถาม เมื่อเวลานี้ร่างเล็กกึ่งนั่งกึ่งเกยอยู่บนตัวของอีกฝ่าย
ทำให้น้ำตัวทิ้งลงไปให้ทงเฮแทบทั้งหมด แถมเป็นเกมส์รักที่ทงเฮเป็นฝ่ายควบคุมมันทั้งหมด
คำถามที่ทงเฮยิ้มจางๆก่อนจะกระแทกเข้าไปให้หนักหน่วงยิ่งกว่า
“เกาะให้ดีก็พอ”
“อื้อ...อ๊า...ทงเฮ..”
แรงส่งที่หนักแน่นยิ่งกว่าเดิม ทุกครั้งที่ทงเฮใส่เข้ามาจนสุดจนกายเสียววาบ
ท่วงท่าที่ทำให้รู้สึกว่ามันลึกแต่ก็รู้สึกดี
“อืมม”
แรงบีบรัดของช่องทางนุ่มที่ทำให้เสียงทุ้มคำรามต่ำในลำคอ
สะโพกสอบยังคงสวนกายเข้าหาร่างเล็กอย่างไม่เบาแรง”
“ฮือ... อ๊ะ..ๆ ซี๊ด..”
“เสียงนายมัน..”
ทงเฮร้องบอก น้ำเสียงที่เหมือนกับว่าความอดกลั้นของความรู้สึกมันสิ้นสุด ความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดไปไวจนเวลานี้
อยากจะให้มันเป็นอย่างที่ควร
“รู้สึก...อืม..หรือยัง...”
ความสุขที่ได้จากกันและกันที่ทงเฮเอ่ยถาม คำถามที่ไม่ได้ได้ถามถึงสิ่งที่ทำกันในตอนนี้ แต่เป็นความรู้สึกจริงๆที่มีให้กันในฐานะคนรัก
“อื้อ..ระ..แรงไป..อ๊ะ”
เสียงหวานที่กำลังจะเอ่ยตอบหากแต่แรงที่กระแทกเข้ามาทำให้ไม่อาจตอบได้ตามความคิด
เสียงปรามที่ขาดห้วงที่มีหรือที่ทงเฮจะผ่อนแรง
“ยัง..อืม...ไม่รู้สึก..สินะอ่าห์...” แม้ฮยอกแจจะยังไม่ให้คำตอบที่อยากได้แต่ทงเฮก็ไม่เร่งเร้า
เพราะสักวันมันต้องมีวันนั้น...
“รู้..อื้อออ
แล้ว..อ๊ะ...เบาๆ..หน่อยสิ..ฉันรู้สึก...อ๊ะ..แล้ว” คำตอบที่ทงเฮหยุดกายลงนิ่ง
ดวงตาจับจ้องใบหน้าราวกับถามอีกครั้งให้แน่ใจ ดันร่างเล็กให้ทิ้งกายลงไปนอนตามเดิมพร้อมกับทาบทับกายลงมาห่างไม่ถึงคืบ
“หยุด..แฮ่กๆ
ทำไม” ดวงตาที่ปรือมอง ประท้วงกับคนเอาแต่ใจที่จู่ๆก็หยุดนิ่งเสียอย่างนั้น
ทำให้อารมณ์หวามที่ชะงักงันให้รู้สึกอึดอัด
แต่สำหรับทงเฮนั้น..ตอนนี้กลับรู้สึกถึงความถี่ของก้อนเนื้อที่เต้นภายใน คำถามที่ถามแบบนี้มาตลอดทุกครั้งที่มีอะไรกัน
หากแต่ครั้งนี้กลับได้คำตอบที่ต่างออกไปจากทุกที
“นายตอบว่าอะไร”
ดวงตาที่ประสานมองราวกับ
“ชอบ...ฉันรู้สึกชอบนายแล้ว”
คำตอบที่ทำให้ฮยอกแจเห็นรอยยิ้มที่ต่างออกไปจากทุกที รอยยิ้มที่ไม่ได้ดูมีเสน่ห์จนน่ามองแต่เป็นเพียงรอยยิ้มที่บอกถึงความสุขที่แผ่ออกมา
ทงเฮก้มลงจูบเบาๆบนเรียวปาก ไร้การถ่ายเทลมหายใจเช่นทุกที
ปากที่แนบแตะกันเบาๆก่อนจะถอนใบหน้าขึ้น
“ถ้านายบอกรักฉันวันไหน...เตรียมใจไว้ได้เลย”
คำขู่ที่มาพร้อมกับกายหนาที่โถมกายเข้าใส่ ฮยอกแจที่ทำได้เพียงแค่จิกผ้าปูเอาไว้ยึดกายลงกับที่นอน ปลดปล่อยอารมณ์ไปตามความต้องการของร่างกาย
เวลาที่ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนที่ฮยอกแจคิดว่าปล่อยมันไปอีกสักพักจะดีกว่า
เพราะคิดว่ามันไวไปที่จะพูดคำๆนั้น....
“ที่จริง...ฉันรักนายไปแล้วต่างหาก...แต่...ยังไม่บอกหรอก”
“ฉันอึดอัด”
ฮยอกแจร้องบอกเพราะอารมณ์ที่ค้างคา พร้อมโน้มลำคอคนด้านบนให้โน้มลงมา
“อย่าร้องว่าเบาๆก็แล้วกัน”
ดวงตาเจ้าเล่ห์ฉายแว้บขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะขยับกายออกจนเกือบหลุดให้สะโพกเล็กยกลอยตามมา
แล้วกดลงไปแรงๆ
“อ๊ะ..นายมัน...อื้อ...”
“รู้สึกดีชะมัด..อืมมม”
“ทงเฮ...ฮือ...”
กายที่ขยับเข้าหากันตามคลื่นอารมณ์ที่โหมพัดเป็นเกลียวโถมเข้าหา
ความอบอุ่นภายในห้องผนวกเข้ากับความร้อนแรงของเกมส์รักครั้งนี้
ไม่นานนักที่สองกายจะขยับเข้าหากันอย่างรุ่นแรงทว่าแฝงไปด้วยความรู้สึกต่างจากทุกครั้ง
ก่อนที่เสียงทุ้มจะคำรามต่ำพร้อมกับชักกายออกมาขยับรูดอีกไม่กี่ทีปลดปล่อยไปบนกายเล็ก
เช่นเดียวกันกับฮยอกแจที่ปลดปล่อยจนเปรอะเปื้อนไปทั้งแผ่นท้องบาง
“อืมมมมม!!!!”
“อื้อ....”
ทงเฮผละตัวออก
เอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ตรงหัวเตียง นำมาเช็ดคราบรักบนแผ่นท้องให้อย่างเบามือ
การกระทำที่แม้จะไม่ได้มีคำพูดอะไรมาอธิบายแต่ต่างก็รู้กันดี
กลับไปอ่านค่อนะคะ