คำพูดของตงไห่ที่ยอมรับข้อเสนอของฮยอกแจ ทำให้เวลานี้หัวใจดวงเล็กเต้นโครมครามแรงราวกับจะหลุดออกมานอกอก
เรือนร่างกำยำพร้อมสีผิวคร้ามแดดที่ร่างเล็กเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนกลับทำให้ดวงตากลมใสไม่กล้าจะที่มองตรงๆ
“จะจ้องฉันอีกนานไหม”
เสียงทุ้มเอ่ยถามยามก้าวออกมาจากห้องน้ำหลังจากชำระร่างกาย
พร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กเพียงผืนเดียวที่พาดเอาไว้บนคอ ขณะที่ร่างกายที่แสนดึงดูดนั้นไร้เนื้อผ้าบดบังความแข็งแรงและสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ
“เอ่อ..คือคุณดูดีกว่าในดีวีดีจนเทียบไม่ติดเลย..เอ่อ....”
เรือนกายที่ไม่มีอะไรบดบังสักนิดทำเอาคนที่เสนอตัวได้แต่เสตามองขางแล้วชำเลืองมองอย่างอายๆ
“แล้วจะมานั่งจ้องฉันเฉยๆ?”
“คือ..ผมไม่รู้ว่าควรเริ่ม...”
“ลองเลียดูสิ”
กึก
คำพูดที่ทำให้ฮยอกแจเบิกตากว้าง
แต่เพราสายตาที่ประสานมองมาทำให้ร่างเล็กรวบรวมความกล้าเขยิบตัวเข้ามาหากายหนาทีทิ้งตัวนั่งลงตรงขอบเตียง
รางเล็กที่สวมชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้แก้เขินจ้องมองภาพตรงหน้าไม่วางตาราวกับสิ่งของล้ำค่าที่ต้องสัมผัสอย่างเบามือ
“เอ๊ะ...”
“อะไร..”
เสียงห้วนจัดทำให้ฮยอกแจสะดุ้ง
พร้อมกับคำถามที่เอ่ยออกมาเบาๆแต่คนที่นั่งอยู่สูงกว่าก็ได้ยินชัดเจน
“ตงไห่มีรอยสักตรงนี้ด้วยหรอ”
“จะมองอีกนานไหม!!” เสียงทุ้มถามย้ำจนฮยอกแจเลิกสนใจก่อนจะจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอีกครั้ง
“งั้น..ผมทำ..” เสียงตะกุกตะกักเอ่ยตอบก่อนจะสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจเฮือกใหญ่ บทรักที่ดูทุกวี่วันจนจัดเจนทุกทฤษฏีทำให้มือเล็กยื่นออกไป
สัมผัสส่วนที่ตื่นตัวน้อยๆแล้วขยับเบาๆ
‘ร้อนจัง’
ความคิดที่เอ่ยดังในหัวก่อนที่ฮยอกแจจะใจกล้าแลบลิ้นเลียไปบนแท่งเนื้อร้อนนั้น
แพล่บ
“อืม..” ลิ้นร้อนที่แลบไปทั่วความยาวแล้วอ้าปากครอบลงไปจนเกือบมิด
ดวงตากลมจับจ้องไปที่รอยสักนั้นอย่างสงสัยแต่ก็ปล่อยผ่านไปเมื่อรู้สึกถึงร่างกายตัวเองที่ร้อนขึ้นจนขยับริมผีปากห่อให้แน่นขึ้นจนขึ้นเสียง
“พอ..”
“อือออ”
มือหนาแทรกมือไปกลุ่มผมนุ่มแล้วรั้งใบหน้าเล็กที่ตั้งใจใช้ปากอย่างมุ่งมั่นออกห่างจากแก่นกายที่ตื่นได้ที่
หากแต่ประโยคต่อมาก็ทำให้ร่างเล็กที่นั่งทับบนส้นเท้าตัวเองถึงกับหมดกำลังใจ
“นายมันห่วยจริงๆ”
“ขอโทษฮะ..ให้ผมลองอีกที..” หากว่าคำพูดทำให้หมดกำลังใจแล้ว ใบหน้าคมที่แสดงออกอย่างที่พูดก็ทำให้ฮยอกแจยิ่งอยากจะร้องไห้หนักกว่าเดิม แต่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะได้มีเซ็กส์กับคนที่ใฝ่ฝันถึง
“ไม่ต้อง..มันตื่นตัวแล้วล่ะ...แต่” เสียงทุ้มเอ่ยพูดราวกับเป็นเรื่องปกติทั่วไปโดยที่มือตัวเองยังขยับชักรูดแท่งเนื้อร้อนของตัวเองจนฮยอกแจได้แต่หน้าแต่
“แต่..อะไรฮะ”
“เวอร์จิ้นสินะนายน่ะ...ฉันคงจะใส่เข้าไปไมได้”
“ได้ฮะ!!!!
สะ..ใส่เข้ามาได้” ฮยอกแจสำลักบอก เพราะตัวเองนั้นสอดนิ้วเข้าไปบ่อยครั้งเวลาช่วยตัวเองยามดูหนังของตงไห่เวลามีอารมณ์
“ถ้ามีเจล....”
ความคิดที่นึกขึ้นได้แต่น่าเสียดายที่ตนเองไม่ได้แวะซื้อมาระหว่างทาง
ฟึบ
จู่ๆ เจลหล่อลื่นก็ถูกโยนมาให้
จนดวงตากลมใสมองตามไป
“ในลิ้นชัก..ที่เหลือก็ทำเองแล้วกัน” น้ำเสียงหน่ายๆเอ่ยบอก
ก่อนจะต้องเบือนหน้าหนีเมื่อร่างเล็กจัดการขยายช่องทางด้วยท่าทางที่เกินบรรยาย
ก้นขาวๆนั่นน่ะก็น่ามองอยู่หรอกนะ แต่ได้ท่าทางโกงตูดนี่มันไร้ความอีโรติก
หรือเชิญชวนให้น่าเข้าหาเลยสักนิด
“เห้..ท่านายนี่มัน” สายตาระอามองอย่างเหนื่อยใจ
มองดูก็รู้ว่านอกจากทฤษฎีแล้วร่างเล็กคนนี้คงไม่เคยที่จะปฏิบัติจริงเลยสักครั้ง
“ขอโทษฮะ..อึก..” เสียงพร่าเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเสีย แม้จะรู้สึกเขินอายและเก้ๆกังๆ
แต่นิ้วที่กดแทรกเข้าไปกับคนที่เปลือยอยู่ไม่ห่างกายก็ทำให้ฮยอกแจรู้สึกตื่นเต้นจ่างจากการช่วยตัวเองครั้งก่อนๆ
...
“พอ...โอบฉันไว้”
กายหนาเคลื่อนกายเข้ามาหา จับร่างเล็กนอนหงายขึ้นมา
ดวงตาที่สั่นไหวจ้องมองคนที่เฝ้ามองดูทีวีทุกวันแล้วพยักหน้าทำตามที่คนที่คร่อมอยู่สั่ง
ขาเล็กแยกออกจากกันแม้จะอายแสนอาย หากแต่โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดนั้นคงมีเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่พระเจ้าคงจะเห็นใจ
“ผ่อนคลาย...ของฉันมันใหญ่คงเข้ายากหน่อยนะ”
คำพูดตรงๆที่
ทำให้ใบหน้าที่แสนจะจืดชืดเห่อแดงขึ้นมาได้ก่อนจะตอบกลับไปให้คนฟังได้แต่ขำในลำคอ
“ฮะ..จะยังไงก็ได้
แค่เป็นคุณผมทนได้...ได้โปรด...”
“หึ...”
เสียงทุ้มที่ดังมาพร้อมกับลมหายใจก่อนจะดันแท่งเนื้อร้อนเข้าไปช้าๆเพราะช่องทางที่แม้จะขยายแล้วแต่มันกลับปิดสนิท
“จะ..เจ็บ...ตง..ไห่อึ้ก ...!!”
“อะ..เอาออกก่อน...เจ็บ...ตงไห่..!!!!!!”
“อย่าดิ้นสิมันยิ่งเจ็บนะ” เสียงทุ้มตวาดแต่ก็ทำให้ฮยอกแจหยุดดิ้นลงได้แต่น้ำตายังคงหยดออกมาไม่ขาดสายกับความรู้สึกที่เหมือนร่างกายกำลังปริแยกออกจากกันจนได้ยินเสียงฉีกขาด
“แล้วเรียกมันอยู่นั่นแหละ ...เหมือนฉันมากนักหรือไง
ไอ้ตงไห่ที่ว่านั่นน่ะ ถ้าจะคราง...ฉันชื่อ
ทงเฮ!”
“ทง..เฮ....ชื่อจริงๆของนายหรอ? ” ฮยอกแจที่ยังไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นเอ่ยถามด้วยความใสซื่อ
แม้น้ำตาจะยังคลอด้วยความเจ็บปวด
“ฉันไม่มีชื่อในวงการ หรือนอกวงการทั้งนั้น
” แต่ประโยคต่อมาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนาตรงหน้าทำให้ร่างเล็กถึงกับชะงักค้างกับสิ่งที่ได้ยิน
‘เขาพูดอะไรออกมา....’
“นาย..เป็น...ใคร” เสียงแผ่วเบาเอ่ยหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง ขณะที่ขาเรียวทั้งสองข้างถูกแยกออกให้กว้างขึ้น
“นายไม่ใช่..ตงไห่....” แล้วทุกอย่างก็ประมวลผลออกมาพร้อมกับคำถามที่ไม่อยากจะฟังคำตอบของมัน
“ไม่ใช่” คำตอบที่เป็นเหมือนสิ่งที่ดึงรั้งสติของฮยอกแจขึ้นมาว่าเวลานี้ตนเองกำลังมีเซ็กส์อยู่กับคนที่ไม่รู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่กลับเป็นคนที่เหมือนกนไปหมดทุกอย่าง ยกเว้น.....รอยสัก
ใช่สิ...เราดูหนังของตงไห่ทุกเรื่อง ตงไห่ไม่เคยมีรอยสักเลยสักนิด
“ปละ...ปล่อย...ปล่อยนะ” เสียงร้อยโววายพร้อมกับมือที่ทุบไปที่แผ่นอกจนมือหนาต้องตัดการรวบมันไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วกดลงบนที่นอนเหนือหัวของร่างเล็กเอง
“ปล่อยให้โง่น่ะสิมาถึงขั้นนี้แล้ว”
เสียงทุ้มบอกด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่ายังไงก็ไม่มีทางปล่อยร่างเล็กในเวลานี้แน่
“โอ๊ยยยย เจ็บ เอาออกไป!!!!!! อึ้ก!!!!”
“มันจะสุดแล้ว...ยิ่งดิ้นนายยิ่งเจ็บนะ
เพราะยังไงฉันก็ไม่เอาออก
ถ้าอยากเจ็บตัวมากกว่านี้ก็ดิ้นต่อไป แต่ถ้าอยู่เฉยๆมันจะหายเจ็บเอง”
เสียงกระซิบเบาเอ่ยบอกข้างๆหู จนฮยอกแจหยุดนิ่งไปเพราะยอมรับชะตากรรม ในเมื่อมันเสียจนไม่สามารถเรียกอะไรกลับคืนมาได้แล้วก็ปล่อยมันไป ท่าทางที่สงบลงทำให้ทงเฮยกยิ้มก่อนจะดันกายเข้าไปจนสุด
“ฮื่อ..”
“เจ็บอยู่ไหม?”
หงึกๆ
ผมทำได้แค่เท่านั้นก่อนที่ร่างกายมันจะโยกไหวไปพร้อมกับเขา
ครั้งแรกที่ตั้งใจมอบร่างกายให้แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด ความรู้สึกมันตีรวนปนเปกันไปหมด
ผมกลายเป็นคนที่วิ่งเร่เสนอตัวให้คนที่ไม่รู้จัก
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ร่างกายของผมตอบสนองเขาทุกจุดที่เขาสัมผัส ความเจ็บแปลบแปรเปลี่ยนเป็นสุขสันต์
แต่ผมก็ทำได้แต่ร้องครางเท่านั้น นานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ที่เขาเสพสมร่างกายของผม
จนกระทั่งผมลืมตาขึ้นมาหลังจากหมดสติไป
ขวับ
ซ่า....
“ห้องน้ำ?”
หนี....
คำเดียวสั้นๆตอนนี้ที่โผล่ขึ้นมาในสมองพร้อมกับร่างกายที่ปวดร้าวค่อยๆขยับไปยังเสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย
ฮยอกแจรีบหยิบมันมาสวมใส่ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าแล้วออกจากห้องไป
ไม่มีเหตุผลที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาอีก
ดังนั้นการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจึงเป็นทางออกที่สมควรแล้ว
กลับไปอ่านต่อนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น