“เอ่อ...ทงเฮ...”
“เราเพิ่งจะปรับความเข้าใจกันนะ...เอ่อ..ตามทฤษฎีแล้วเขาบอกว่าไม่ควรจะมีอะไรกันทันทีนะ
ควรที่จะเอ่อ...เข้าใจ พูดคุยศึกษากันให้ดีก่อน”
เวลานี้ที่ผมกับเขานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำภายใต้ผืนน้ำเดียวกันด้วยสภาพร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าติดกายที่ถูกเขาปล้นถอดออกไปเสียหมด ส่วนเสื้อผ้าของเขาน่ะหรอ...
เขาก็ออกคำสั่งบังคับให้ผมถอดมันออกด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
“ฉันอยากให้นายเป็นคนถอด
สายตาที่สั่นไหวของนายมันทำให้ฉันรู้สึกดี”
ประโยคที่ทำให้ผมและเขามาอยู่ ณ อ่างอาบน้ำนี้ด้วยกัน มีเพียงผืนน้ำใสแจ๋วที่เป็นเหมือฟิล์มบางๆที่ซ่อนร่างกายช่วงล่างเอาไว้
แต่มันก็ไม่ต่างกับกระจกใสที่มองทะลุไปจนถึงก้นอ่าง
แล้วเวลานี้ ผมก็กำลังต่อรองกับเขาเรื่องอย่างว่านั่นแหละ
ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะมีอะไรๆกับเขา ...ก็แค่รู้สึกแปลกๆเท่านั้น
เพราะอารมณ์ที่ผันผวนจนไม่ทันตั้งรับ แต่พอเขาตวัดสายตามามองผมก็รู้ทันทีว่าใครเป็นฝ่ายชนะ
“หึ....มีแต่พวกไม่มีน้ำยาเท่านั้นแหละ...ที่สำคัญ
ฉันทนมาเกินพอแล้ว”
“เอ่อ..” มือผมถูกดึงไปเพื่อสัมผัสความแข็งของส่วนนั้นที่ผมไม่รู้เลยว่า
เขาตื่นตัวด้วยสาเหตุอะไรอีก หรืออาจะเพราะโกรธเหมือนครั้งนั้น
เขาควบคุมมือของผมให้ขยับจนน้ำภายอ่างกระเพื่อมก่อนที่อุปสรรคของมวลน้ำนั้นจะทำให้เขาจูงผมออกมานอกอ่าง
สายตาที่แสดงออกชัดเจนจนผมรู้สึกได้ อาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งปรับความเข้าใจกันหรืออาจจะเป็นครั้งแรกที่ทงเฮมองผมด้วยสายตาแบบนี้
สายตาที่ทำให้ผมไม่สามารถเอ่ยอะไรที่เป็นการปฏิเสธเขาได้ ไม่แม้แต่จิตใต้สำนึกหรือร่างกายเองมันก็โอนอ่อนคล้อยตามอย่างว่าง่าย
“เอามือยันกำแพงไว้” เขาบอกยามที่กันกายผมให้หันหน้าเข้ากับผนังห้องน้ำ
มือทั้งสองข้างวางทาบไปกับความเย็นเฉียบของกระเบื้องสีอ่อนพร้อมกับไออุ่นของกายเขาที่ซ้อนทาบเข้ามา
“อือ...” ความร้อนของริมฝีปากสัมผัสลงมายังบริเวณต้นคอด้านหลังจนสะดุ้งก่อนที่ความอุ่นนุ่มนั้นจะค่อยๆเคลื่อนสัมผัสไปยังหัวไล่เรื่อยลงไปยังแผ่นหลัง
จุ๊บ
จุ๊บ
“ฮื่อ...” ทุกตารางผิวที่ทุกสัมผัส
เสียงหวานก็ครางรับเบาๆด้วยความหวามไหว รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่อีกฝ่ายพยายามมอบให้ก่อนที่ดวงตาที่หลับพริ้มจะลืมตากว้าง
เมื่อมือหนาแบะก้นนุ่มออก
“ยะ...อย่า..นาย..ทำอะไร..” ผมสะดุ้งกับความชื้นแฉะที่สัมผัสลงมา
หันมาจะเอ่ยว่า แต่ก่อนที่จะได้ห้ามจริงจัง เสียงของเขาก็เอ่ยเข้ม
“อย่าดิ้น!!...พื้นมันลื่น”
“ตะ...แต่นาย ทำเอ่อ...แบบนั้น...ตรงนั้น”
ผมพูดไม่เป็นประโยคเพราะรู้สึกร้อนไปทั้งใบหน้ากับสิ่งที่ทงเฮทำให้
มันเกินความคาดหมายและไม่เคยคาดคิด
“ฉันอยากทำให้นาย ... แบบนี้ ไม่ได้หรือไง?..” แม้หางเสียงจะแอบห้วน
แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาออดอ้อนผมทั้งสายตารวมถึงการกระทำในเวลานี้
“ทุกส่วนของนาย...ฉันอยากรู้ อยากสัมผัสมันทั้งหมด...ได้ไหม...”
“เอ่อ...”
“ไม่ให้?”
“ไม่ใช่ เอ่อ...แบบนั้น” คำถามจากสายตาของเขามันนิ่งกว่าคำพูดที่เอ่ยออกมาเสียอีก
“งั้น...เป็นเด็กดี...ยืนนิ่งๆ”
“ก็มัน...อายนี่...”
หลังจากนั้นผมก็ต้องเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ
เหนื่อยที่ต้องตามใจยอมให้เขาทำอะไรๆตามที่ต้องการ ขาที่ต้องยืนเกาะผนังให้เขาเอาแต่ใจจนสั่นพร่าเกือบยืนไม่อยู่
แต่ถึงอย่างนั้นขนาดว่าผมแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงออกมาจากห้องน้ำ แต่เขากลับไม่ยอมหยุด
“อ่าห์...อืออ...”
เสียงของผมที่ไม่อาจะกักเก็บเล็ดลอดออกมาให้ดิ้นเป็นครั้งคราว แล้วดูเหมือนว่าเขาจะชอบกับการที่ผมปลดปล่อยเสียงน่าอายแบบนั้นออกไปบนที่นอนที่ยับยู่ยี่เวลานี้
“อืม...”
“อ้ะ.....อึ้ก...อื้มมม” ฮยอกแจที่ได้แค่ครางในลำคอเมื่อคนที่คร่อมอยู่ด้านบนก้มลงมาลิดรอนเส้นเสียงยามที่เคลื่อนกายเข้าหาเป็นจังหวะ
จูบร้อนแรงที่ฮยอกแจครวญครางอื้ออึง
ปลายลิ้นเล็กถูกไล่ต้อนกระชากลมหายใจจนต้องร้องประท้วง
ร่างกายที่แทบไม่เป็นของตัวเองเพราะไม่ว่าจะถูกชักจูงไปทางไหนก็ทำได้เพียงโอนอ่อนตาม ร่างกายที่มีแต่ร้อนขึ้นๆเพราะเพลิงไฟที่ทงเฮเป็นคนสุมไฟเข้ามาเรื่อยๆ
ความร้อนที่ไม่ได้แผดเผาให้ตาย หากแต่เป็นเพียงเปลวไฟที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ
“อื้อๆ ...”
“ฉันชอบนายนะ...” ทงเฮผละใบหน้าออก จ้องมองเข้าไปในลูกแก้วที่ไร้จริตใดๆ สายตาที่อ่านออกมองทะลุไปได้ถึงยังก้นบึ้งของความคิด พลันดวงตาที่แสนจะดึงดูดนั้นกลับคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำจนต้องใช้ปลายนิ้วเช็ดหยาดน้ำตานั้นออกให้อย่างเบามือ
“ร้องไห้ทำไม”
เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมๆกับร่างกายที่กำลังโถมเข้าหาเป็นอันหยุดชะงัก ทั้งๆที่ไม่เคยจะสนใจหรือแคร์อะไรนัก แต่พอเป็นน้ำตาจากคนตรงหน้า คนที่ร้องไห้แทบตายจนว้าวุ่นใจเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา ทำให้ความคิดนั้นเปลี่ยนไป โดยเฉพาะความเปราะบางของคนตรงหน้านี้
“ก็นาย..บอกว่า..ชอบ...ครั้งแรก...ครั้งแรกที่มีคนพูดกับฉันแบบนี้” ฮยอกแจเค้นเสียงตอบเพราะความรู้สึกที่กำลังล้นอยู่ในอก
“หึ..ฉันนี่เป็นครั้งแรกของนายทุกเรื่องเลยหรือไง?
แต่...ก็ไม่เลวนะ” เมื่อได้ยินคำตอบ ทงเฮก็ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเริ่มขยับกายออกแล้วกดแทรกกายเข้าหาอีกครั้ง
เสียงครางหวานๆ
ที่ปนแทรกไปด้วยหยาดน้ำตาที่ทงเฮมองมันอย่างพอใจ
ก่อนจะเริ่มถอนกายออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกายเข้าไปแรงขึ้น หากฮยอกแจร้องไห้เพราะความสุข น้ำตานั้นมันก็ร้องออกมาเพื่อเขา
แต่เขาจะไม่ให้ร่างเล็กคนนี้ร้องไห้เพราะความทุกข์ที่มีสาเหตุมาจากเขาอีกแล้ว
แรงบีบกระชับและความร้อนที่โอบอุ้มของผนังนุ่มสัมผัสได้ทำให้ทงเฮสวนกายเข้าหาแรงขึ้นจนเกิดเสียง
ความเจ็บปวด ความเสียใจ
รวมถึงความโดดเดี่ยวที่ฮยอกแจพบเจอมานั้น เป็นเหมือนกับเป็นเพียงแค่ถนนลูกรังเล็กๆน้อยๆก่อนที่จะได้มาพบเจอความสุขที่แท้จริงเช่นนี้
“อึ้ก...อื้อ...” ฮยอกแจเม้มปากแน่น เมื่อแก่นกายร้อนผ่าวสอดเข้ามาในกายรุนแรงขึ้นจนกายโยกไหว
“อ๊าา!!! ทงเฮ...อึ้ก...อ๊า...ฮื่อ....”
เสียงหวานที่ร้องเรียกทำให้ทงเฮโถมกายเข้าหาที่จุดๆเดิม
เสียงหวานที่ร้องพร่าเร้าความต้องการของคนที่ตักตวงพร้อมๆกับมอบสัมผัสให้ยิ่งเร่งจังหวะรัวแรง
ขณะที่ฮยอกแจเองก็ตอบรับทุกท่วงท่า ทุกจังหวะเป็นอย่างดี
“อาห์...ฮยอกแจ....นาย...
อึ้กๆ...เป็นของฉัน...คนเดียวเท่านั้น” ทงเฮคำรามเสียงต่ำเอ่ยอ้างความเป็นเจ้าของทั้งกายและใจ
โดยที่คนที่ถูกอ้างความเป็นเจ้าของก็ไม่อิดออดหรือคัดค้านในคำพูดนั้น
มือเล็กเอื้อมขึ้นคล้องลำคอหนาตอบรับความเป็นเจ้าของนั้นแต่โดยดี
ความน่ารักที่ทงเฮโน้มกายลงขนาบไปบนร่างเล็ก ซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกบางที่ชูชัน
ดูดเม้มหัวนมนิ่มที่แข็งเป็นไตแรงๆ เม้มดุนจนแผ่นอกแอ่นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
ขณะที่ส่วนล่างก็ยังสอดปะสานเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างรุนแรง
ใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยความต้องการ
ใบหน้าที่ทำให้ฮยอกแจอดจะเขินไม่ได้ว่าคนๆนี้
คนที่เคยเป็นเพียงคู่นอนเวลาที่เขาเรียกหา ต่อแต่นี้ไปมันจะพัฒนาไปมากกว่านั้น
คนที่เอ่ยปากบอกว่าชอบเขาเหมือนกันกับที่เขารู้สึก
“อาห์...ฮยอกแจ...อืม...”
“ทงเฮ...อึ้ก...อ๊า...
ฉันจะ...อ๊าาาาาา!!!!!!!!!!” เสียงหวานหวีดร้องลั่น
กายเล็กกระตุกเกร็งปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มแผ่นท้อง
แรงบีบกระชับตอดรัดถี่รัวทำทงเฮยิ่งรวบร่างเล็กแน่น
กระแทกแกนกายหนักหน่วงก่อนที่ความต้องการที่มากล้นจะปลดปล่อยเข้าไปยังร่างเล็กทุกหยาดหยด
กลับไปอ่านต่อนะคะ
กลับไปอ่านต่อนะคะ