วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

SF : 98 My Brother



          กึก


            เสียงครางเบาๆ  จากจอทีวีที่ทำให้ฮยอกแจที่เพลิดเพลินกับเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปชะงักแล้วหันมามองน้องชายที่ดูด้วยท่าทีปกติ 


            ภาพบนเตียงในห้องบรรทมที่ปรากฏกายของคนสองคนที่คลุกคลีด้วยกันมาตั้งแต่เด็กในสภาพเปลือยเปล่า


            พระราชากับองครักษ์!!


            สายตาที่พยายามไม่ให้สั่นไหวมองภาพในจอพลางหันหนีอย่างไม่กล้าจับจ้องมันนานเกินไป  ทุกท่าทีที่อยู่ในสายตาคมของน้องชายตลอดเวลาแต่ทำเป็นนิ่งเฉย


            เรียวปากคู่หนึ่งที่กำลังประกบเข้าหากันด้วยความร้อนแรงผ้าผืนแดงที่คลุมช่วงสะโพกหนาเอาไว้  แผ่นหลังของพระราชาหนุ่มที่ถูกซ้อนด้วยแผ่นอกขององครักษ์คู่ใจกับร่างกายที่สั่นไหวเป็นจังหวะ


            ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ต่อกันเช่นไร


            “มึง”  เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียก  ซี่งทงเฮที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินจำต้องหันมาสนใจอย่างช่วยไม่ได้  เมื่อรู้สึกถึงอาการขยับน้อยๆของพี่ชายข้างๆ


            “หือ?” 


            “เลื่อนไปข้างหน้าดิ”  คำขอที่ทงเฮลอบยิ้มมุมปาก  พี่เขานี่มันซื่อเกินไปหรือเปล่า


            “ดูๆไปเหอะไม่เห็นมีอะไร”  ทงเฮปฏิเสธพลางนั่งมองฉากรักระหว่างชายชายด้วยท่าทีสบายๆ  บอกตามตรงว่าไม่เคยดูเหมือนกัน  แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้ประเจิดประเจ้อขนาดดูไม่ได้  สายตาคมจึงมองดูราวกับเป็นเรื่องปกติ


            ห้องนอนกว้างถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง  สายตาสนใจที่จับจ้องบนจอทีวีที่เนื้อเรื่องกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม  เมื่อความสัมพันธ์ของพระราชากับองครักษ์ส่อแววเปลี่ยนไป  จะด้วยความไว้ใจหรือการตัดสินใจผิดก็ตาม


            เมื่อพระราชาจำต้องมีทายาทเพื่อสืบทอดราชวงศ์   แต่กลับส่งองครักษ์ตนเองเข้าเรือนหอกับมเหสีแทนที่จะเป็นตัวเอง  เพราะไม่สามารถกระทำรักแบบนั้นได้   


            เนื้อเรื่องที่ดำเนินมาถึงบทรักที่แสดงออกถึงความประหม่า  ความไม่แน่ใจพร้อมกับความกลัวที่ทำให้คนทั้งสองนั่งดูความความเงียบกริบยิ่งกว่าเดิม 


            กลีบปากหนาขององครักษ์ที่ค่อยๆปรับจูบลงไปบนซอกคอขาว  ไล่ลงมายังเนินอกก่อนจะมองปฏิกิริยาของมเหสีคู่กายพระราชาที่จำต้องถูกแตะต้องกายจากองครักษ์ต่ำศักดิ์  การอภิเษกที่ไม่ได้เกิดจากความเสน่หาซึ่งกันและกัน  กลับเป็นเพียงการรักษาราชวงศ์และตำแหน่งเท่านั้น


            เสียงครางครวญที่ดังก้องทำให้ความอ่อนไหวเริ่มตื่นตัว


            ทงเฮลอบมองพี่ชายอีกครั้งแล้วครั้งนี้ก็ต้องยิ้มกว้าง ใบหน้าที่แดงแจ๋  เรียวขาที่ขยับไปมาอย่างกระสับกระส่ายพอจะทำให้เข้าใจได้ดี


            พี่ของเขามีอารมณ์กับฉากรักนี้....


            งั้นมันก็ไม่ได้เป็นเกย์สินะ


            ความคิดที่ทำให้ทงเฮลอบถอนหายใจโล่งอก   ไม่ใช่ว่าจะรังเกียจแต่ไม่อยากให้ใครมามองพี่ตัวเองด้วยสายตาโลมเลียหรือให้มันต้องไปอยู่ใต้ร่างใคร


            กึก!!


            ขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น  เรียวลิ้นเล็กที่ยื่นออกมาแลบเลียริมฝีปากช้าๆ ทำให้ทงเฮถึงกับเบิกตากว้างกับท่าทางเป็นธรรมชาตินั้น  ก่อนจะหันไปมองที่ทีวีอีกครั้งเพราะเสียงครางทุ้มที่ต่างออกไป


            เหี้ยแล้วไง!!!  พระราชามันมานอนให้องครักษ์เสียบตั้งแต่เมื่อไหร่’ 


            ‘งั้น.....ฮยอกแจ..มึง


            ทงเฮเฝ้ามองใบหน้าพี่ชายอย่างไม่ละสายตา  ดวงตากลมประดับแพยาวที่มองจอทีวีด้วยสายตาปรือฉ่ำ  ริมฝีปากเรียวบางนั้นที่ชุ่มชื้นไปด้วยคราบน้ำลาย


            ยิ่งคิดส่วนกลางลำตัวก็ยิ่งตื่น!!!


            ก่อนที่ความคิดจะบรรเจิดไปไกล  ทงเฮจำต้องขุดไม้ตายสุดท้ายขึ้นมาเพื่อพิสูจน์  เพราะยังไงคืนนี้ก็ต้องเป็นอันรู้ให้ได้ว่า  สรุปแล้วพี่เขามันดำรงอยู่ในเพศไหน


            มือหนาจัดการสะบัดผ้าห่มออกก่อนจะทำการสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมชาติ  เพียงแต่กระทำต่อหน้าพี่ชายเท่านั้น


            “มึง..ปิดเหอะ....เห้ย!”  ฮยอกแจที่หันมาจะบอกให้นอนได้แล้วเพราะความรู้สึกปั่นป่วนที่ตีรวนในช่องท้อง  แต่กลับเป็นอันต้องร้องโวยเสียงดังลั่น  เพราะแทนที่หันมาจะเห็นน้องชายนั่งดูหนังเงียบๆ  กลับกลายเป็นว่าช่วงล่างที่เปลือยเปล่าพร้อมกับมือที่ขยับเป็นจังหวะปลุกเร้าความเป็นชายให้ยิ่งตื่นตัว


            ภาพที่จัดเจนยิ่งกว่า 3D  แม้จะสลัวๆเพราะแสงไฟที่ปิดสนิททุกดวง   แต่เพราะแสงสว่างจากจอทีวีที่ทำให้ทุกการกระทำนั้นมองเห็นได้เต็มๆตา


            “ไอ้บ้า มะ..มา...ทำอะไรตรงนี้”  เสียงต่อว่าพร้อมหันหลังหนีทำเอาคนที่อารมณ์ขึ้นจริงตาวาววับ


            “อืม...มึง...หันมา...ก่อนดิ”  เสียงครางแผ่วเอ่ยเรียก


            “หันไปทำบ้าอะไร” 


            ฟู่!!!!!!


            “อื้อออออออ”   ลมร้อนที่จงใจเป่าเข้ามาที่ใบหูจนคนที่นั่งหันหลังตกใจพร้อมกับเสียงที่เล็ดรอดออกมา


            เสียงที่ทำให้คนจงใจแกล้งพี่ชายถึงกับชะงักงัน


            เสียงมึง....


            “เป็นผู้ชาย..มีอารมณ์ก็ไม่แปลก” มือหนาที่ละออกจากส่วนตึงเครียดก่อนที่จะถึงจุดหมายข่มกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้เพียงเท่านี้ก่อน  แล้วดันแผ่นหลังพี่ชายให้หันกลับมานั่งท่าเดิม


            “เห้ย...ไอ้ทงเฮ”


            “เอาน่า  มึงก็มีอารมณ์”  มือที่คว้าหมับเข้าที่กลางลำตัวของพี่ชายจนรู้สึกได้ถึงอาการตื่นน้อยๆ  จนฮยอกแจโวยลั่น


            “ไม่ต้องยุ่ง  ไอ้บ้า กูจะฟ้องแม่”


            “มึงนอนไม่หลับหรอก  ปล่อยๆไปซะจะได้นอนสบาย” 


            “กูนอนได้ ไอ้..อื้ออ” 


            เสียงที่กล่าวว่าเป็นอันต้องหยุดแล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงครางเมื่อทงเฮสอดแทรกมือเข้าไปภายในร่มผ้าโดยไม่ให้ฮยอกแจได้ตั้งตัว  ฝ่ามือที่สัมผัสเข้ากับเนื้อหนังที่ค่อยๆขยายตัว  ข้อมือที่ขยับไม่ถนัดจำต้องรูดรั้งกางเกงและชั้นในลงมากองที่ข้อขา  สายตาที่จับจ้องกับส่วนที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เต็มเปี่ยม


            ก็มีอะไรเหมือนๆกัน....ทำไมมันน่ามองจังวะ’  ส่วนอ่อนไหวสีอ่อนที่ค่อยๆชัดรูดเบาๆก่อความหวามให้มากขึ้น


            “อื้มมมม อ๊ะๆ...”  เสียงที่ดังใกล้ใบหูยิ่งปลุกเร้าให้น้องชายที่ต้องการทดสอบพี่ตัวเองหลงลืมภารกิจนั้นจนสิ้น เมื่อฮยอกแจเอนกายซบหน้าลงกับไหล่หนาอย่างหมดแรงกำลังจะรั้งร่างกายให้เป็นปกติ


            “ดีป่าววะ”  ทงเฮเอ่ยถามพลางขยับข้อมือให้เร็วขึ้นอีกนิด  กลิ่นสบู่หอมๆที่ลอยมาเตะจมูกจนพลั้งเผลอก้มลงซูดดม


            “ดะ...ดี..อืม...เร็วหน่อย..กะ...ใกล้แล้ว..อ๊ะ...” 


            เสียงครางหวานหูที่ดังออกมาเพียงแผ่วเบา  แต่กลับดังก้องภายในหูของคนฟัง  เสียงที่ถูกกลบด้วยเสียงของทีวีจนหมดสิ้น


            “อ๊า!!!!!” เสียงหวานหวีดร้องลั่นด้วยความหวามที่รุมเร้าร่างกาย  เมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะที่ซอกคอเละติ่งหูยามถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากร้อนและลิ้นชื้นแฉะ


            “เสียงมึงนี่เอ็กซ์สัด”


            “อื้ออออออ”


            ทงเฮคำรามบอกก่อนจะหมดความอดทน พี่ชายที่กระตุกเกร็งร่างกายถี่ๆ  แล้วปลดปล่อยน้ำคาวออกมาจะเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งข้อมือรวมถึงแผ่นท้องบาง


            “แฮกๆ”   แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงราวกับออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน  แก้มใสที่เห่อแดงเพราะความอาย


            ไม่ได้อายที่มาเปลือยให้น้องมันเห็น เพราะโตมาด้วยกันเห็นกันมาตั้งเท่าไหร่  แต่อายที่          ”เสร็จ”  คามือของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องที่ห่างกันแค่ปีเดียว  แม้จะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้แต่ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย


            “ดีขึ้นไหม”  เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองทุกกริยาท่าทางนั้น


            “อือ”  คำตอบส่งๆพร้อมกับมือที่ตวัดกางเกงที่กองอยู่ที่ข้อเท้าขึ้นมาจะใส่ให้เหมือนเดิม


            “อย่าเพิ่งดิ”  ทงเฮเอ่ยห้ามพร้อมมือที่กระชับแน่น


            “อะไรอีก” 


            “มึงเสร็จแล้ว  แต่กูยัง”  สายตาที่มองมาแล้วก้มมองส่วนที่ยังคงโป่งพองเป็นคำอธิบายทุกอย่างได้ดี


            “ก็ทำไปดิ  จะไปนอนแล้ว”  ฮยอกแจก้มหน้าหนีแล้วบอก 


            “อย่าซึน...ทำให้กูก่อน”  ฝ่ามือหนากำข้อมือพี่แน่นด้วยไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีไปก่อนแน่


            “ห๊ะ! ทำเองดิเว้ย”


            “อย่าชิ่งเมื่อกี้กูทำให้มึงนะครับ  เร็วๆ กูปวดจะตายห่าแล้ว  เป็นพี่ประสาอะไรวะ” คำต่อว่าผสมปนเปไปกับการทวงบุญคุณทำเอาฮยอกแจชะงักฟังพร้อมกับท่าทีที่อ่อนลง


            “เออ..เอามาดิ  ว่าอยู่ได้ใครขอให้มึงทำให้เล่า”  เมื่อได้ยินอีกฝ่ายว่า  คนที่จะหนีไปนอนกลับโพล่งออกมาทันที


            “มึงอะเขยิบเข้ามา”


            ฮยอกแจกระเถิบกายเข้ามาอีกนิดตามคำบอก  ก่อนจะหันไปมองอย่างเอาเรื่อง


            “แล้วไงต่อ” 


            “เมื่อกี้กูทำให้ยังไงก็ทำแบบนั้นแหละ” 


            ข้อมือเล็กเอื้อมมาสัมผัสส่วนตื่นตั้งตระหง่านช้าๆ  ปลายนิ้วที่กำรอบสัมผัสกับความร้อนจนยิ่งรู้สึกร้อนบนใบหน้า   ความเชื่องช้าที่ทงเฮก็ไม่ได้เร่งเร้าหากแต่มองท่าทางไม่กล้านั้นด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป


            ทำไมรู้สึกแปลกๆ


            “อืม....”  ความคิดที่ถูกขัดด้วยคลื่นอารมณ์ที่เริ่มปะทุอีกครั้ง  เมื่อมือบางขยับขึ้นลงจนหนังหุ้มเลื่อนไปตามแรงรูด


            “ทำไมหนังมึงลงได้เยอะจัง”  คำถามที่ทงเฮอยากตบหัวพี่ชายแรงๆสักที


            “มึงจะเรียนเพศศึกษาตอนนี้อะนะ!!!” อีทงเฮอยากบ้าตายกับความใฝ่รู้ของพี่ชาย


            “กูแค่ถาม”


            “เสร็จแล้วจะบอกเร็วๆเข้าเหอะ อืมมมมม..คลึงตรงหัวแรงๆ”  ถ้อยคำที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ปะทุ  มือหนาจับรอบมือพี่ชายไว้อีกที  ก่อนจะขยับชักนำให้จนฮยอกแจเผลอไผลทำไปตามสัญชาตญาณ


            “ดีว่ะ อืม...ฮยอกแจ...มึง”  เสียงครางเบาๆที่คนฟังได้แต่นั่งอาย  ยิ่งเสียงเหล่านั้นหลุดออกมามากเท่าไหร่  แผ่นท้องที่เหมือนจะสงบกับเสียววูบทุกครั้ง


            มือเล็กขยับช้าบ้างเร็วบ้างจนรู้สึกคุ้นชิน ปลายนิ้วที่บี้คลึงตามคำขอจากน้องชายจนได้ยินเสียงครางกระเส่ามาเป็นระยะ


            “สั..ด..เสียวชิบ”  ดวงตาคู่คมปรือมองใบหน้าพี่ชายที่ตั้งใจกับการช่วยปลดปล่อยตัวเองจนไม่สนใจอะไรรอบข้าง


            “มึง...”  เสียงเล็กเอ่ยเรียก


            “อืม..”  เสียงครางเบาๆที่ไม่รู้ว่าครางตอบรับหรือเพราะแรงอารมณ์


            “เมื่อยมือ”  เสียงอ่อยๆ เค้นเสียงบอก  คำที่ทำให้ทงเฮตัดสินใจ


            ฟึบ


            “เห้ย!!!”   ร่างกายที่ถูกพลิกหน้าเข้ากับโซฟาจนต้องใช่มือสองข้างค้ำยันเอาไว้พร้อมกับร่างกายท่อนลางที่เปลือยจนรู้สึกโหวง  เป็นจังหวะเดียวกันกับน้องชายที่ประกบเข้ามาทางด้านหลังจนหัวใจเต้นสั่นรัว


            “นิ่งๆ”  กระทุ้มกระซิบบอกข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่กระทบผิวกาย  คำสั่งสั้นๆที่ฮยอกแจทำตามโดยไม่ทักท้วง
            ฝ่ามือที่ลูบมาบนต้นขาอ่อนจนเรียวขาสั่นระริก  ก่อนจะรู้สึกถึงความร้อนที่แทรกเข้ามาตรงหว่างขา


            “มึง...ทำอะไร”  คำถามที่รู้ดีอยู่แล้ว ภาพที่ไม่ได้ต่างไปจากในหนังเลยแม้แต่น้อย


            จุ๊บ ทงเฮกดจูบลงมาบนซอกคอนั้นเบาๆ จนคนรับขนลุกซู่


            “อย่าอ้าขานะ” คำพูดที่ฮยอกแจงงเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจในความหมายนั่น


            แท่งเนื้อร้อนที่สอดแทรกเข้าออกเสียดสีกับเนื้อขาอ่อนเข้าออกช้าบ้างเร็วบ้างจนโซฟานุ่มสั่นโยกไปตามแรงกระแทก


            “อือออ”  เสียงครางต่ำพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆที่แนบมากับแผ่นหลังจนความรู้สึกก่อตัวขึ้นอีกครั้ง


            มือหนาสองขาประคองที่เอวเล็กของพี่ชายหลวมๆ  ดวงตาที่จับจ้องไปยังแกนกายตนเองที่ผลุบเข้าออกตามท่อนขาแล้วได้แต่ข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้มันเกินเลยไปกว่านี้


            “อ๊า....”


            กึก


            เสียงครางพร้อมกับข้อแขนเล็กที่ขยับเร็วๆจนทงเฮเอื้อมมือไปจับมือเล็กนั่นออก  ก่อนจะเป็นคนชักนำให้พี่ชายอีกครั้งพร้อมๆกับสะโพกสอบที่ยังเขยิบเข้าหาไม่เสียจังหวะ


            “อื้อ...ทงเฮ”    


            เนื้อแนบเนื้อที่แม้ไม่ได้สอดใส่เข้าไปภายในตัว  แต่ท่าทางและการกระทำก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนัก


            ฟึบๆ


            เสียงภายในห้องที่เคล้าคลอไปกับเสียงของฉากหนังจนแยกไม่ออก  แรงกระแทกเข้าหาที่รุนแรงจนเรือนร่างเล็กไหวโยก ใบหน้าซบลงกับพนักพิงโซฟา  ปล่อยร่างกายให้คนด้านหลังเป็นคนควบคุม


            “อ๊ะ.....อ่าห์  ไวอีก กะ...กูจะไป..แล้ว”   


            หน้าท้องที่หดเกร็งเป็นระรอกเร่งเร้าให้ทงเฮรีบเร่งจังหวะมือที่ขยับพร้อมกับเสือกไสร่างกายตามอารมณ์พี่ชายให้ทันก่อนที่ร่างเล็กจะกระตุกอีกครั้งปลดปล่อยคลื่นอารมณ์ออกมาพร้อมกันจนหมดสิ้น


            “ฮยอก..มึง...อืมมม”


            ฟุบ


            ทงเฮทิ้งร่างทับพี่ชายลงมาอย่างไม่ผ่อนแรง  คราบขาวเปรอะเปื้อนไปทั่วเรียวขาบาง  ความเงียบที่ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นก่อน มีเพียงเสียงทีวีที่ดำเนินเรื่องมาถึงจุดจบ




กลับไปอ่านต่อค่ะ
http://my.dek-d.com/mizz-may/writer/viewlongc.php?id=871400&chapter=93

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น