กึก
เสียงครางเบาๆ จากจอทีวีที่ทำให้ฮยอกแจที่เพลิดเพลินกับเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปชะงักแล้วหันมามองน้องชายที่ดูด้วยท่าทีปกติ
ภาพบนเตียงในห้องบรรทมที่ปรากฏกายของคนสองคนที่คลุกคลีด้วยกันมาตั้งแต่เด็กในสภาพเปลือยเปล่า
พระราชากับองครักษ์!!
สายตาที่พยายามไม่ให้สั่นไหวมองภาพในจอพลางหันหนีอย่างไม่กล้าจับจ้องมันนานเกินไป ทุกท่าทีที่อยู่ในสายตาคมของน้องชายตลอดเวลาแต่ทำเป็นนิ่งเฉย
เรียวปากคู่หนึ่งที่กำลังประกบเข้าหากันด้วยความร้อนแรงผ้าผืนแดงที่คลุมช่วงสะโพกหนาเอาไว้ แผ่นหลังของพระราชาหนุ่มที่ถูกซ้อนด้วยแผ่นอกขององครักษ์คู่ใจกับร่างกายที่สั่นไหวเป็นจังหวะ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ต่อกันเช่นไร
“มึง” เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียก ซี่งทงเฮที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินจำต้องหันมาสนใจอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อรู้สึกถึงอาการขยับน้อยๆของพี่ชายข้างๆ
“หือ?”
“เลื่อนไปข้างหน้าดิ” คำขอที่ทงเฮลอบยิ้มมุมปาก พี่เขานี่มันซื่อเกินไปหรือเปล่า
“ดูๆไปเหอะไม่เห็นมีอะไร” ทงเฮปฏิเสธพลางนั่งมองฉากรักระหว่างชายชายด้วยท่าทีสบายๆ บอกตามตรงว่าไม่เคยดูเหมือนกัน แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้ประเจิดประเจ้อขนาดดูไม่ได้ สายตาคมจึงมองดูราวกับเป็นเรื่องปกติ
ห้องนอนกว้างถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง สายตาสนใจที่จับจ้องบนจอทีวีที่เนื้อเรื่องกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เมื่อความสัมพันธ์ของพระราชากับองครักษ์ส่อแววเปลี่ยนไป จะด้วยความไว้ใจหรือการตัดสินใจผิดก็ตาม
เมื่อพระราชาจำต้องมีทายาทเพื่อสืบทอดราชวงศ์ แต่กลับส่งองครักษ์ตนเองเข้าเรือนหอกับมเหสีแทนที่จะเป็นตัวเอง เพราะไม่สามารถกระทำรักแบบนั้นได้
เนื้อเรื่องที่ดำเนินมาถึงบทรักที่แสดงออกถึงความประหม่า ความไม่แน่ใจพร้อมกับความกลัวที่ทำให้คนทั้งสองนั่งดูความความเงียบกริบยิ่งกว่าเดิม
กลีบปากหนาขององครักษ์ที่ค่อยๆปรับจูบลงไปบนซอกคอขาว ไล่ลงมายังเนินอกก่อนจะมองปฏิกิริยาของมเหสีคู่กายพระราชาที่จำต้องถูกแตะต้องกายจากองครักษ์ต่ำศักดิ์ การอภิเษกที่ไม่ได้เกิดจากความเสน่หาซึ่งกันและกัน กลับเป็นเพียงการรักษาราชวงศ์และตำแหน่งเท่านั้น
เสียงครางครวญที่ดังก้องทำให้ความอ่อนไหวเริ่มตื่นตัว
ทงเฮลอบมองพี่ชายอีกครั้งแล้วครั้งนี้ก็ต้องยิ้มกว้าง ใบหน้าที่แดงแจ๋ เรียวขาที่ขยับไปมาอย่างกระสับกระส่ายพอจะทำให้เข้าใจได้ดี
พี่ของเขามีอารมณ์กับฉากรักนี้....
‘งั้นมันก็ไม่ได้เป็นเกย์สินะ’
ความคิดที่ทำให้ทงเฮลอบถอนหายใจโล่งอก ไม่ใช่ว่าจะรังเกียจแต่ไม่อยากให้ใครมามองพี่ตัวเองด้วยสายตาโลมเลียหรือให้มันต้องไปอยู่ใต้ร่างใคร
กึก!!
ขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น เรียวลิ้นเล็กที่ยื่นออกมาแลบเลียริมฝีปากช้าๆ ทำให้ทงเฮถึงกับเบิกตากว้างกับท่าทางเป็นธรรมชาตินั้น ก่อนจะหันไปมองที่ทีวีอีกครั้งเพราะเสียงครางทุ้มที่ต่างออกไป
‘เหี้ยแล้วไง!!! พระราชามันมานอนให้องครักษ์เสียบตั้งแต่เมื่อไหร่’
‘งั้น.....ฮยอกแจ..มึง’
ทงเฮเฝ้ามองใบหน้าพี่ชายอย่างไม่ละสายตา ดวงตากลมประดับแพยาวที่มองจอทีวีด้วยสายตาปรือฉ่ำ ริมฝีปากเรียวบางนั้นที่ชุ่มชื้นไปด้วยคราบน้ำลาย
ยิ่งคิดส่วนกลางลำตัวก็ยิ่งตื่น!!!
ก่อนที่ความคิดจะบรรเจิดไปไกล ทงเฮจำต้องขุดไม้ตายสุดท้ายขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ เพราะยังไงคืนนี้ก็ต้องเป็นอันรู้ให้ได้ว่า สรุปแล้วพี่เขามันดำรงอยู่ในเพศไหน
มือหนาจัดการสะบัดผ้าห่มออกก่อนจะทำการสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงแต่กระทำต่อหน้าพี่ชายเท่านั้น
“มึง..ปิดเหอะ....เห้ย!” ฮยอกแจที่หันมาจะบอกให้นอนได้แล้วเพราะความรู้สึกปั่นป่วนที่ตีรวนในช่องท้อง แต่กลับเป็นอันต้องร้องโวยเสียงดังลั่น เพราะแทนที่หันมาจะเห็นน้องชายนั่งดูหนังเงียบๆ กลับกลายเป็นว่าช่วงล่างที่เปลือยเปล่าพร้อมกับมือที่ขยับเป็นจังหวะปลุกเร้าความเป็นชายให้ยิ่งตื่นตัว
ภาพที่จัดเจนยิ่งกว่า 3D แม้จะสลัวๆเพราะแสงไฟที่ปิดสนิททุกดวง แต่เพราะแสงสว่างจากจอทีวีที่ทำให้ทุกการกระทำนั้นมองเห็นได้เต็มๆตา
“ไอ้บ้า มะ..มา...ทำอะไรตรงนี้” เสียงต่อว่าพร้อมหันหลังหนีทำเอาคนที่อารมณ์ขึ้นจริงตาวาววับ
“อืม...มึง...หันมา...ก่อนดิ” เสียงครางแผ่วเอ่ยเรียก
“หันไปทำบ้าอะไร”
ฟู่!!!!!!
“อื้อออออออ” ลมร้อนที่จงใจเป่าเข้ามาที่ใบหูจนคนที่นั่งหันหลังตกใจพร้อมกับเสียงที่เล็ดรอดออกมา
เสียงที่ทำให้คนจงใจแกล้งพี่ชายถึงกับชะงักงัน
‘เสียงมึง....’
“เป็นผู้ชาย..มีอารมณ์ก็ไม่แปลก” มือหนาที่ละออกจากส่วนตึงเครียดก่อนที่จะถึงจุดหมายข่มกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้เพียงเท่านี้ก่อน แล้วดันแผ่นหลังพี่ชายให้หันกลับมานั่งท่าเดิม
“เห้ย...ไอ้ทงเฮ”
“เอาน่า มึงก็มีอารมณ์” มือที่คว้าหมับเข้าที่กลางลำตัวของพี่ชายจนรู้สึกได้ถึงอาการตื่นน้อยๆ จนฮยอกแจโวยลั่น
“ไม่ต้องยุ่ง ไอ้บ้า กูจะฟ้องแม่”
“มึงนอนไม่หลับหรอก ปล่อยๆไปซะจะได้นอนสบาย”
“กูนอนได้ ไอ้..อื้ออ”
เสียงที่กล่าวว่าเป็นอันต้องหยุดแล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงครางเมื่อทงเฮสอดแทรกมือเข้าไปภายในร่มผ้าโดยไม่ให้ฮยอกแจได้ตั้งตัว ฝ่ามือที่สัมผัสเข้ากับเนื้อหนังที่ค่อยๆขยายตัว ข้อมือที่ขยับไม่ถนัดจำต้องรูดรั้งกางเกงและชั้นในลงมากองที่ข้อขา สายตาที่จับจ้องกับส่วนที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เต็มเปี่ยม
‘ก็มีอะไรเหมือนๆกัน....ทำไมมันน่ามองจังวะ’ ส่วนอ่อนไหวสีอ่อนที่ค่อยๆชัดรูดเบาๆก่อความหวามให้มากขึ้น
“อื้มมมม อ๊ะๆ...” เสียงที่ดังใกล้ใบหูยิ่งปลุกเร้าให้น้องชายที่ต้องการทดสอบพี่ตัวเองหลงลืมภารกิจนั้นจนสิ้น เมื่อฮยอกแจเอนกายซบหน้าลงกับไหล่หนาอย่างหมดแรงกำลังจะรั้งร่างกายให้เป็นปกติ
“ดีป่าววะ” ทงเฮเอ่ยถามพลางขยับข้อมือให้เร็วขึ้นอีกนิด กลิ่นสบู่หอมๆที่ลอยมาเตะจมูกจนพลั้งเผลอก้มลงซูดดม
“ดะ...ดี..อืม...เร็วหน่อย..กะ...ใกล้แล้ว..อ๊ะ...”
เสียงครางหวานหูที่ดังออกมาเพียงแผ่วเบา แต่กลับดังก้องภายในหูของคนฟัง เสียงที่ถูกกลบด้วยเสียงของทีวีจนหมดสิ้น
“อ๊า!!!!!” เสียงหวานหวีดร้องลั่นด้วยความหวามที่รุมเร้าร่างกาย เมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะที่ซอกคอเละติ่งหูยามถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากร้อนและลิ้นชื้นแฉะ
“เสียงมึงนี่เอ็กซ์สัด”
“อื้ออออออ”
ทงเฮคำรามบอกก่อนจะหมดความอดทน พี่ชายที่กระตุกเกร็งร่างกายถี่ๆ แล้วปลดปล่อยน้ำคาวออกมาจะเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งข้อมือรวมถึงแผ่นท้องบาง
“แฮกๆ” แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงราวกับออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน แก้มใสที่เห่อแดงเพราะความอาย
ไม่ได้อายที่มาเปลือยให้น้องมันเห็น เพราะโตมาด้วยกันเห็นกันมาตั้งเท่าไหร่ แต่อายที่ ”เสร็จ” คามือของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องที่ห่างกันแค่ปีเดียว แม้จะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้แต่ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย
“ดีขึ้นไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองทุกกริยาท่าทางนั้น
“อือ” คำตอบส่งๆพร้อมกับมือที่ตวัดกางเกงที่กองอยู่ที่ข้อเท้าขึ้นมาจะใส่ให้เหมือนเดิม
“อย่าเพิ่งดิ” ทงเฮเอ่ยห้ามพร้อมมือที่กระชับแน่น
“อะไรอีก”
“มึงเสร็จแล้ว แต่กูยัง” สายตาที่มองมาแล้วก้มมองส่วนที่ยังคงโป่งพองเป็นคำอธิบายทุกอย่างได้ดี
“ก็ทำไปดิ จะไปนอนแล้ว” ฮยอกแจก้มหน้าหนีแล้วบอก
“อย่าซึน...ทำให้กูก่อน” ฝ่ามือหนากำข้อมือพี่แน่นด้วยไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีไปก่อนแน่
“ห๊ะ! ทำเองดิเว้ย”
“อย่าชิ่งเมื่อกี้กูทำให้มึงนะครับ เร็วๆ กูปวดจะตายห่าแล้ว เป็นพี่ประสาอะไรวะ” คำต่อว่าผสมปนเปไปกับการทวงบุญคุณทำเอาฮยอกแจชะงักฟังพร้อมกับท่าทีที่อ่อนลง
“เออ..เอามาดิ ว่าอยู่ได้ใครขอให้มึงทำให้เล่า” เมื่อได้ยินอีกฝ่ายว่า คนที่จะหนีไปนอนกลับโพล่งออกมาทันที
“มึงอะเขยิบเข้ามา”
ฮยอกแจกระเถิบกายเข้ามาอีกนิดตามคำบอก ก่อนจะหันไปมองอย่างเอาเรื่อง
“แล้วไงต่อ”
“เมื่อกี้กูทำให้ยังไงก็ทำแบบนั้นแหละ”
ข้อมือเล็กเอื้อมมาสัมผัสส่วนตื่นตั้งตระหง่านช้าๆ ปลายนิ้วที่กำรอบสัมผัสกับความร้อนจนยิ่งรู้สึกร้อนบนใบหน้า ความเชื่องช้าที่ทงเฮก็ไม่ได้เร่งเร้าหากแต่มองท่าทางไม่กล้านั้นด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป
‘ทำไมรู้สึกแปลกๆ’
“อืม....” ความคิดที่ถูกขัดด้วยคลื่นอารมณ์ที่เริ่มปะทุอีกครั้ง เมื่อมือบางขยับขึ้นลงจนหนังหุ้มเลื่อนไปตามแรงรูด
“ทำไมหนังมึงลงได้เยอะจัง” คำถามที่ทงเฮอยากตบหัวพี่ชายแรงๆสักที
“มึงจะเรียนเพศศึกษาตอนนี้อะนะ!!!” อีทงเฮอยากบ้าตายกับความใฝ่รู้ของพี่ชาย
“กูแค่ถาม”
“เสร็จแล้วจะบอกเร็วๆเข้าเหอะ อืมมมมม..คลึงตรงหัวแรงๆ” ถ้อยคำที่บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ปะทุ มือหนาจับรอบมือพี่ชายไว้อีกที ก่อนจะขยับชักนำให้จนฮยอกแจเผลอไผลทำไปตามสัญชาตญาณ
“ดีว่ะ อืม...ฮยอกแจ...มึง” เสียงครางเบาๆที่คนฟังได้แต่นั่งอาย ยิ่งเสียงเหล่านั้นหลุดออกมามากเท่าไหร่ แผ่นท้องที่เหมือนจะสงบกับเสียววูบทุกครั้ง
มือเล็กขยับช้าบ้างเร็วบ้างจนรู้สึกคุ้นชิน ปลายนิ้วที่บี้คลึงตามคำขอจากน้องชายจนได้ยินเสียงครางกระเส่ามาเป็นระยะ
“สั..ด..เสียวชิบ” ดวงตาคู่คมปรือมองใบหน้าพี่ชายที่ตั้งใจกับการช่วยปลดปล่อยตัวเองจนไม่สนใจอะไรรอบข้าง
“มึง...” เสียงเล็กเอ่ยเรียก
“อืม..” เสียงครางเบาๆที่ไม่รู้ว่าครางตอบรับหรือเพราะแรงอารมณ์
“เมื่อยมือ” เสียงอ่อยๆ เค้นเสียงบอก คำที่ทำให้ทงเฮตัดสินใจ
ฟึบ
“เห้ย!!!” ร่างกายที่ถูกพลิกหน้าเข้ากับโซฟาจนต้องใช่มือสองข้างค้ำยันเอาไว้พร้อมกับร่างกายท่อนลางที่เปลือยจนรู้สึกโหวง เป็นจังหวะเดียวกันกับน้องชายที่ประกบเข้ามาทางด้านหลังจนหัวใจเต้นสั่นรัว
“นิ่งๆ” กระทุ้มกระซิบบอกข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่กระทบผิวกาย คำสั่งสั้นๆที่ฮยอกแจทำตามโดยไม่ทักท้วง
ฝ่ามือที่ลูบมาบนต้นขาอ่อนจนเรียวขาสั่นระริก ก่อนจะรู้สึกถึงความร้อนที่แทรกเข้ามาตรงหว่างขา
“มึง...ทำอะไร” คำถามที่รู้ดีอยู่แล้ว ภาพที่ไม่ได้ต่างไปจากในหนังเลยแม้แต่น้อย
จุ๊บ ทงเฮกดจูบลงมาบนซอกคอนั้นเบาๆ จนคนรับขนลุกซู่
“อย่าอ้าขานะ” คำพูดที่ฮยอกแจงงเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจในความหมายนั่น
แท่งเนื้อร้อนที่สอดแทรกเข้าออกเสียดสีกับเนื้อขาอ่อนเข้าออกช้าบ้างเร็วบ้างจนโซฟานุ่มสั่นโยกไปตามแรงกระแทก
“อือออ” เสียงครางต่ำพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆที่แนบมากับแผ่นหลังจนความรู้สึกก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
มือหนาสองขาประคองที่เอวเล็กของพี่ชายหลวมๆ ดวงตาที่จับจ้องไปยังแกนกายตนเองที่ผลุบเข้าออกตามท่อนขาแล้วได้แต่ข่มกลั้นอารมณ์ไม่ให้มันเกินเลยไปกว่านี้
“อ๊า....”
กึก
เสียงครางพร้อมกับข้อแขนเล็กที่ขยับเร็วๆจนทงเฮเอื้อมมือไปจับมือเล็กนั่นออก ก่อนจะเป็นคนชักนำให้พี่ชายอีกครั้งพร้อมๆกับสะโพกสอบที่ยังเขยิบเข้าหาไม่เสียจังหวะ
“อื้อ...ทงเฮ”
เนื้อแนบเนื้อที่แม้ไม่ได้สอดใส่เข้าไปภายในตัว แต่ท่าทางและการกระทำก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนัก
ฟึบๆ
เสียงภายในห้องที่เคล้าคลอไปกับเสียงของฉากหนังจนแยกไม่ออก แรงกระแทกเข้าหาที่รุนแรงจนเรือนร่างเล็กไหวโยก ใบหน้าซบลงกับพนักพิงโซฟา ปล่อยร่างกายให้คนด้านหลังเป็นคนควบคุม
“อ๊ะ.....อ่าห์ ไวอีก กะ...กูจะไป..แล้ว”
หน้าท้องที่หดเกร็งเป็นระรอกเร่งเร้าให้ทงเฮรีบเร่งจังหวะมือที่ขยับพร้อมกับเสือกไสร่างกายตามอารมณ์พี่ชายให้ทันก่อนที่ร่างเล็กจะกระตุกอีกครั้งปลดปล่อยคลื่นอารมณ์ออกมาพร้อมกันจนหมดสิ้น
“ฮยอก..มึง...อืมมม”
ฟุบ
ทงเฮทิ้งร่างทับพี่ชายลงมาอย่างไม่ผ่อนแรง คราบขาวเปรอะเปื้อนไปทั่วเรียวขาบาง ความเงียบที่ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรขึ้นก่อน มีเพียงเสียงทีวีที่ดำเนินเรื่องมาถึงจุดจบ
กลับไปอ่านต่อค่ะ
http://my.dek-d.com/mizz-may/writer/viewlongc.php?id=871400&chapter=93
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น