วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558

SF : 138 คืนหนึ่ง



SF : 138 คืนหนึ่ง (one night)  Cont.







“วู้วววว”  เสียงโวยวายจากทางอีกด้านของคอนโดกว้างรั้งให้คยูฮยอนเหลือบสายตาไปมอง  แล้วก็อดที่จะเดินเข้าไปใกล้ไม่ได้กับโชว์จากคนร่วมงานที่เหมือนว่าไฟในร่างกายจะลุกโชนแล้ว



หญิงสาวที่พรั่งพร้อมด้วยความสมบูรณ์ของร่างกายสวมด้วยชุดเดรสแนบลำตัวที่เวลาค่อยๆปลดบราเซียลูกไม้สีดำสนิทออกพร้อมกับแพนตี้ชิ้นเล็กออกจากร่างกายปลุกอุณหภูมิรอบข้างให้สูงขึ้นไปตามๆกัน


ก่อนที่ชายหนุ่มหลายคนจะย่างก้าวเข้าไปหา มือหยาบกร้านลูบไล้ไปบนเรือนร่างของหญิงสาวที่ไม่มีท่าทีจะขัดขืนหรือต่อต้านก่อนที่บทรักจะบรรเลงท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาและเสียงเพลงที่ยังคงดังก้องภายในสถานที่ที่เก็บเสียงได้ดีเยี่ยม



การรวมตัวสังสรรค์ที่ไม่ใช่ครั้งแรก...และมันจะมีครั้งต่อๆไป


“เห้ย...ไอ้คยู” ถ้อยคำที่เอ่ยเรียกแฝงไว้ด้วยความสนิทสนม  พร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินเข้ามาใกล้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คยูฮยอนสนใจกว่าปกติคือ  ร่างบางที่เดินตามมาด้านหลัง  จนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม


"เออ..ดี..เด็กมึงวันนี้หรอ"  สายตาที่กวาดมองบริเวณรอบข้างอย่างขลาดเขินก่อนจะก้มหน้ามองพื้นทำให้คยูฮยอกเดาได้ไม่ยากว่า...


'คงจะมาครั้งแรก


ความคิดที่คิดเองภายในใจก่อนจะมองหน้าเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทอย่างสอบถาม  เพราะแน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้คนนอกที่ไม่มีบัตรผ่านไม่สามารถเข้างานได้  ยกเว้นคนที่มีคนในที่เป็นขาประจำเท่านั้นจึงจะพาเข้ามาได้


“ไม่เชิง”


“ไม่เชิง?” คำตอบที่คลุมเครือทำให้เสียงทุ้มถามออกไปอีกครั้ง


“เรื่องมันยาว นี่ฮยอกแจ....เอาเป็นว่ามากะกูก็เด็กกู แต่กูไม่ได้เคลม..นี่น้องกูแต่เรียกว่าเด็กกูแหละดีแล้วคนอื่นแม่งจะได้ไม่ยุ่ง”


ชางมิน ชายหนุ่มร่างสูงไม่ต่างกัน ผิวกายเข้มในชุดลำลองเนื้อดีเอ่ยบอกพลางโอบรอบเอวเล็กของคนที่มาด้วยจนคนที่ยืนข้างๆ สะดุ้งเล็กน้อยมองแขนที่เกี่ยวเอวตนเองแล้วเงยหน้ามองคนที่พาเข้ามาด้วยสายตาที่ตกใจไม่น้อยกับความใกล้ชิด สายตาที่คยูฮยอนสังเกตเห็นได้ทันทีก่อนจะปล่อยผ่านไป


“เออ..ตามสบาย ถ้ายังไงห้องส่วนตัวก็มี” แต่เพราะอยากจะแซวคนที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาหรือเพียงแค่แหย่เพื่อนเล่น คยูฮยอนจึงไม่วายเสนอห้องส่วนตัวให้


“สัด..กูบอกว่าน้อง” คำแซวที่ชางมินต้องย้ำให้ฟังอีกครั้งในสถานะ


“เออ..งั้นดูแลน้องมึงดีๆ เดี๋ยวจะโดนหิ้วซะ”


“ก็ดีนะ”  เสียงเบาๆที่แทรกขึ้นมาแม้จะไม่ได้ดังมากแต่ก็ดังพอที่คยูฮยอนและชางมินจะได้ยินก่อนที่ฝ่ามือหนาของคนเป็นพี่ที่พาเข้ามาจะลูบไปบนลูบผมนุ่มอย่างปลอบประโลม  พร้อมสายตาสงสัยจากคยูฮยอนก่อนจะแยกตัวไปอีกทาง


“ฮยอกอยู่คนเดียวได้ พี่ชางมินไปสนุกเถอะ สายตาหลายคู่มองมาเหมือนจะฆ่าฮยอกแล้วเนี่ย”  ฮยอกแจเอ่ยกับพี่ชายที่พามาเปิดหูเปิดตาหืออีกนัยหนึ่งคือพามาเอาคืนเล็กๆ กับแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกราได้ไม่นาน


“เห้ย..ไม่เป็นไรวันนี้พี่ตั้งใจพามาเอาคืนคนเท่านั้น” ชางมินรีบบอก


“โกหกไม่เนียนแล้วฮะ”


“งั้น...มานี่มา”


มือหนาจูงมือเล็กไปยังเคาน์เตอร์ สัดส่วนที่ไม่ค่อยมีใครมาจับจองก่อนจะสั่งคอกเทลดีกรีต่ำให้ เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่มีซะหรอกน้ำอัดลมหรือน้ำเปล่า


“ห้ามดื่มจนเมาล่ะ  แล้วก็อย่าเชื่อใครด้วยที่นี่ไม่มีมิตร  มีแต่คนมาแสวงหาความสนุกให้ตัวเอง”


หงึกๆ                                                   


“อ้อ...เกือบลืม...เอาโทรศัพท์มานี่”  ชางมินที่เกือบจะหันหลังกลับก็นึกขึ้นได้ ฮยอกแจหยิบโทรศัพท์มายื่นให้ก่อนจะทำหน้าสงสัย


“เอ้ายิ้ม”  คำสั่งที่ฮยอกแจพอจะเข้าใจก่อนจะยิ้มหวานใส่โทรศัพท์ที่จัดแจงเป็นกล้องหน้า


“เอานะ 1 2 ”


ฟอด....


“อ๊ะ!!! พี่ชางมิน” 


ท่อนแขนแกร่งที่ยื่นไปด้านหน้าแขนอีกข้างวางพาดไปบนไหล่เล็ก แล้วเมื่อนับถอยหลัง  จมูกดางเป็นสันกดลงบนแก้มใสพร้อมกับกดชัตเตอร์


“เดี๋ยวพี่อัพให้”  ชางมินที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรสักนิดกดอัพรูปดังกล่าวลงบน IG ส่วนตัวของเจ้าของมือถือ


“แค่ขั้นแรก..เบาๆ แค่นี้ก่อนแล้วกัน” คนโตกว่าว่าแบบนั้น แต่คนที่กว่าจะตัดสินใจยอมทำตามที่พี่ชายแนะนำกลับนั่งทำหน้ามุ่ย


“กว่าจะครบกระบวนการของพี่ฮยอกเปลืองตัวชะมัด” ใบหน้ายู่เอ่ยบอกพร้อมเสียงสะบัด แม้จะรู้สึกเสียใจกับความสัมพันธ์ที่จบลง แต่เขาไม่เสียดายสักนิดที่จะเอ่ยตัดสัมพันธ์คนที่นอกใจนอกกายเขา


“เอาน่า...เดี๋ยวหมามันจะหวงก้าง”


“หวงก็เท่านั้นแหละ” ฮยอกแจตอบกลับยามกระดกคอลเทลสีสวยลงคอ


“งั้น....พี่ไป....”


ไปเถอะ...ถ้าจะกลับก่อนฮยอกจะแชทไปบอก”  ฮยอกแจว่าง่ายๆ เพราะพี่ชายอาจจะติดพัน


เดี๋ยวพี่ไปส่ง..ห้ามหนีกลับก่อนชางมินบอกเสียงและสายตาดุจนฮยอกแจพยักหน้าตอบรับ  ร่างสูงจึงยอมเดินห่างออกไปโดยที่มีฮยอกแจโบกมือไล่ 


.......................................................................................................................................



บรรยากาศรอบข้างที่แม้จะดูไม่ต่างจากสถานเริงรมย์นัก แต่แตกต่างออกไปที่จุดประสงค์ของงานที่ไม่ได้เพียงแต่มาดื่มหรือพบปะเพื่อนฝูง ผู้คนรอบที่ดูเป็นมิตรทั้งๆที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันมากมาย และวันไนท์แสตนที่เป็นเรื่องปกติเสียจนเผลอจ้องมองหลายคู่ที่ร่วมรักปลดปล่อยกันท่ามกลางผู้คนที่เต้นไปตามจังหวะ โดยที่ผู้คนอื่นไม่ได้สนใจมากนักที่มีคนร่วมรักกันตรงหน้า


โลกใหม่ที่ฮยอกแจเพิ่งเคยเห็นกับตาตัวเอง


ชางมินล่ะเสียงทุ้มด้านหลังทำให้คนที่จับจ้องภาพอีโรติกตรงหน้าสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหันไปมองคนด้านหลังที่ขยับมานั่งข้างๆ


สักที่ในนี้นี่แหละ” ฮยอกแจตอบกลับเมื่อเห็นว่าใครเอ่ยถาม


คิดยังไงมางานแบบนี้ล่ะคำถามที่อยากรู้จริงๆเพราะคนตรงหน้าแต่งตัวมาแค่พอประมาณไม่ได้ฉูดฉาดล่อเหยื่อเช่นคนอื่น ใบหน้าที่ดูตื่นๆ แม้จะแสงไฟจะไม่ได้สว่างพอแต่ก็คาดเดาได้ว่าแก้มของคนตรงหน้านี้คงขึ้นสีเรื่อเป็นแน่


อยากลองมั้งเหตุผลที่ยกมาอ้างตอบกลับไป


ระวังจะถอนตัวไม่ขึ้น


ผมไม่ใช่คนแบบนั้น


Rrrrrrrrr


เสียงโทรศัพท์ดังคั่นบทสนทนา ฮยอกแจก้มมองหมายเลขที่โทรเข้ามาแล้วก็ได้แค่ยิ้มหยันก่อนจะกดทิ้งพร้อมกับกดเข้าไปดูภาพที่อัพไปไม่นาน


คอมเม้นท์สั้นๆที่ถามว่าใครจากคนที่เคยคุ้น


ไม่รับ?”  การกระทำที่คยูฮยอนมองดูแล้วเอ่ยถาม


ไม่จำเป็น


ถ้าผมเดาไม่ผิด....แฟน?”


ไม่ถูกแต่ก็ไม่ผิด ..แฟนเก่า


หึ...”  คำตอบจากร่างบางยิ่งทำให้คยูยอนพอใจ  เพราะเขาไม่ใช่คนที่ยุ่งกับคนของคนอื่น พอๆกับถ้าเขามีตัวจริงเขาก็ไม่สนใจกิจกรรมแบบนี้


แล้วคุณไม่ได้นัดใครไว้หรือไงถึงมานั่งถามผมแบบนี้คำถามที่เหมือนจะเป็นการไล่อ้อมๆ แต่คนฟังก็ไม่มีท่าทีที่จะลุกจากไป


ไม่..แต่คนถูกใจมีแล้ว


ฮยอกแจยักไหล่เป็นการจบบทสนทนาเพราะไม่ได้อยากรู้ขนาดต้องถามกลับไป สุดท้ายร่างเล็กก็นั่งดื่มเพียงลำพังเมื่อคนที่เข้ามาชวนคุยเดินไปไหนตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่เห็น


ฮยอกแจจะนั่งจิบเครื่องดื่มไปพลางเงี่ยหูฟังเพลงที่บรรเลงไปเงียบๆ พลางเหลือบมองโทรศัพท์ที่กระหน่ำโทรเข้ามาไม่ยั้งแต่ก็ไม่มีสักสายที่เขาจะกดรับ


"ไม่ต้องเอาคืนแล้วมั้ง”เพราะสายที่กระหน่ำโทรเข้า อีกทั้งข้อความที่เด้งไม่หยุดจนต้องกดปิดเครื่องเพราะรำคาญและไม่อยากจะสนใจกับคำแก้ตัว  ทั้งๆที่จงใจมาแก้เผ็ดกับคนรักเก่าที่แอบทำอะไรลับหลัง


“หรือต้องเปลี่ยนเบอร์หนี..."  แต่ก่อนที่จะได้อารมณ์เสียไปมากกว่านี้เสียงที่ดังมาให้ได้ยินก็ทำให้ฮยอกแจชะงัก


 ซี๊ดดดด อ่าห์..


อืมมมม


เสียงกระเส่าจากโต๊ะที่ไม่ไกลออกไป เสียงที่ทำให้คนที่นั่งฟังเงียบๆ จนคำพูดที่เอ่ยกับตัวเองเป็นอันชะงักพร้อมๆกับใบหน้าเล็กต้องเห่อแดง อาจเพราะว่าเวลาที่ยิ่งดึกขึ้นดีกรีความร้อนแรงจึงเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ


แม้จะไม่ได้อินโนเซนต์เป็นเด็กแรกรุ่น แต่ภาพและเสียงที่ชัดยิ่งกว่าระบบ HD ทำให้ฮยอกแจรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า


กึก


ร่างเล็กรีบลุกขึ้นเพื่อหนีจากสถานการณ์ตรงหน้าก่อนจะชนเข้ากับแผ่นอกของใครบางคนที่เพิ่งสนทนาไปเมื่อครู่


จะรีบไปไหน?” คำถามที่มาพร้อมรอยยิ้มเพราะรู้ว่าคนๆนี้จะรีบลุกจากที่ตรงนี้เพราะอะไร


เอ่อ..จะกลับบ้าน คุณเห็นพี่ชางมินไหม?” 


ห้องไหนสักห้องกับใครสักคนคยูฮยอนตอบได้เพียงเท่านั้น


งั้น...ถ้าคุณเจอฝากบอกด้วยว่าผมกลับก่อน


คงจะไม่ได้ มันฝากผมว่ายังไงก็ไม่ให้คุณกลับคนเดียว


แต่...


ถ้าตรงนี้ไม่สะดวกใจ..คำพูดที่พลางเหลือบมองไปยังบทรักร้อนแรงที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มตอนนี้ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าเล็ก


ไปรอไอ้ชางมินในห้องส่วนตัวก่อน


ขอบคุณ


ฮยอกแจเดินตามไป แม้จะไม่วางใจนักกับคนที่เพิ่งจะรู้จัก แต่ก็ยังดีกว่านั่งอยู่ตรงนี้  ที่สำคัญอย่างน้อยคนตรงหน้าก็รู้จักกับพี่ชายตนเอง


ฮยอกแจก้าวตามไปยังห้องที่เป็นส่วนตัวภายในบริเวณงานนั้น ภายในห้องที่แม้จะมีเสียงเพลงจากด้านนอกแทรกเข้ามาได้แต่ก็ไม่ได้ดังมากนัก ร่างเล็กเดินสำรวจภายในก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวหนาขณะที่คนที่พาเข้ามาเดินออกไปเพียงครู่แล้วกลับเข้ามาพร้อมอาหารและเครื่องดื่มจำนวนหนึ่ง


หิวหรือเปล่า


หงึกๆ  ใบหน้าเล็กพยักรับเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องนอกจากคอกเทลแก้วเดียวที่จิบทีละนิด


ขอบคุณฮะ...


อาหารหลากหลายสัญชาติถูกนำเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ เจ้าของสถานที่นั่งลงเคียงข้างแต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดจนเกินไปนัก ขณะที่ฮยอกแจที่พอหายเก้อเขินกับภาพที่บริเวณด้านนอก ความหิวก็เริ่มประท้วงจนตักโน่นหยิบนี่กินไม่ขาด


คุณไม่กิน?” หลังจากกินโน่นกินนี่จะคลายความหิวไปได้เล็กน้อย


ผมไม่ค่อยกินกับแกล้ม


ก็แล้วแต่นะ...คำตอบที่คนให้คนถูกถามยิ้มกริ่มเบาๆ ก่อนจะเทเครื่องดื่มเติมให้คนที่ตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่ปริปากอะไรอีก


…………………………………………………………………………………………………………….


หลังจากจัดการอาหารจนอิ่มจนเจ้าของสถานที่เรียกพนักงานมาทำความสะอาด ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าก็ถูกเติมจนต้องกระดกลงคอไปเรื่อยๆ เสียงเพลงที่แทรกเข้ามาแม้ภายในห้องจะมีทีวีหรือเครื่องเสียงให้ความบันเทิง แต่ทั้งคู่ก็ไม่คิดจะเปิดมัน


จะมอมผมหรือไง?” ฮยอกแจถามเมื่อรู้สึกว่าหัวตนเองเริ่มมึนโคลงเคลงอย่างไรพิกล ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นอยู่กับคนแปลกหน้าคนนี้เพียงลำพังในห้องมิดชิด


ก็น่าอยู่คำตอบที่ฮยอกแจหันไปมองก่อนจะยิ้มอย่างแปลความหมายไม่ออก แล้วดื่มอีกนิดก่อนจะเอนกายพิงไปกับพนักพิงโซฟา


"สนุกหรือมีอะไรกับคนเพิ่งรู้จักน่ะ" คำถามตรงๆ เพราะอยากรู้มากกว่าประชดแดกดันเพราะความสงสัยที่ติดค้างมาจากแฟนเก่าที่เข้าไปเห็นคาตาจนอยากรู้


อยากรู้ว่า.....ทำไมถึงไม่พอ?


"ต้องลองเอง"  คยูฮยอนตอบกลับกวนๆ แบบขอไปที


"ผมถามดีๆนะ"


"ก็...แค่ปลดปล่อยไม่มีอะไรต่อจากนั้น ต่างคนต่างเสร็จก็จบ" คยูฮยอนนึกสักครู่ก่อนจะตอบออกไป  คำตอบที่เป็นพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ที่ก้าวเข้ามาในงานแบบนี้  เพราะแม้ตนเองจะเข้าร่วมงานบ่อยครั้ง แต่จุดประสงค์หลักไม่ใช่การหาใครมาปลดปล่อยให้พ้นๆวัน


มันก็แค่การใช้เวลาว่างของคนที่ไม่มีพันธะ  และหากเจอคนถูกใจก็แค่สัมพันธ์ชั่วคราว


"ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้วอะนะ"


"แฟนเก่าคุณทำแบบนั้นงั้นสิ...? ไม่รู้สิ ผมไม่เคยทำอะไรลับหลังแฟน"


"หืม...นี่ยังไม่มีตัวจริงหรือ" คำตอบที่ทำให้ฮยอกแจเบิกตากว้างมอง  เพราะคนที่นั่งอยู่ด้านข้างตอนนี้ก็เป็นคนที่ดูดีมากคนหนึ่ง  จนไม่อยากจะเชื่อว่าจะไม่มีคนรัก


ขวับ ใบหน้าคมส่ายช้าๆ 


"เคยมีแต่..เลิกไปนานแล้ว"


"ที่ไม่มีเพราะยังรักสนุกหรือเปล่า...อืม..ถ้าโสดแล้วทำตัวแบบนี้มันก็ไม่น่าเกลียดเท่ามีแฟนเป็นตัวตนแล้วยังไม่รู้จักพอ"  ฮยอกแจตอบไปตามคิด แม้กิจกรรมด้านนอกจะดูผิดศีลธรรม แต่หากคนเหล่านั้นไม่ได้มีใครเป็นตัวจริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นัก


"แฟนนอกใจงั้นสิ"


"ประมาณนั้น แต่ช่างเถอะเลิกแล้วก็คือเลิก"


"ถ้าทำใจได้แล้วจะมายั่วให้เขาหึงทำไม"


"ความคิดพี่ชางมิน...แค่ยอมทำตามเฉยๆ ... แล้วก็สะใจดีเหมือนกัน"


"ให้ช่วยไหมล่ะ"


"ไม่ต้องหวังดีหรอกฮะ" ฮยอกแจมองด้วยสายตารู้ทัน แม้จะมึนเล็กๆ แต่ยังมีสติครบถ้วน


"แล้วถ้าไม่ได้อยากช่วยจริงๆ"  คยูฮยอนเขยิบเข้ามาใกล้จนช่องว่างเหลือน้อยลง


"สนใจผมหรอ" ร่างเล็กหันไปมองก่อนจะถามไปตรงๆ


"คงงั้น...คุณไม่มีใครแล้วนี่ ไม่เห็นต้องแคร์อะไร"


"ถามหรือยังว่าผมสนใจคุณหรือเปล่า"


"ถ้าไม่สน แล้วคุณจะยอมให้ผมอยู่ด้วยตามลำพัง?" คำตอบที่เข้าข้างตัวเองเต็มที่จนทำให้ใบหน้าเล็กยิ้มออกมาได้ง่ายๆอย่างไม่ปิดบัง


"หลงตัวเอง"


………………………………………………………………………………………………………………......


ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง 


นาฬิกาที่ตีบอกเวลาเที่ยงคืน เสียงด้านนอกที่ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนภายในห้องก็ยังคงมีเสียงพูดคุยประปรายกับเครื่องดื่มเย็นเฉียบที่นำเข้ามาเติมเรื่อยๆ


"คอแข็งเหมือนกันนะ"คยูฮยอนพูด เพราะร่างเล็กที่นั่งด้านข้างนี้แม้จะตาฉ่ำกว่าเดิม ใบหน้าเห่อแดงมากแค่ไหนก็ไม่มีท่าทีจะขาดสติเลยสักนิด


แค่ตอบสนองช้าลง แต่ยังคงรับรู้ทุกอย่าง


"เจ๋ง...ป้ะล่ะ"  อาการเกร็งที่มีต่อกันลดลงไปพร้อมกับความรู้สึกสบายใจหลังจากพูดคุยกันไปได้สักพัก ฮยอกแจที่มึนจนเอนตัวไปพิงไหล่คนด้านข้างตอบกลับติดยานเล็กน้อย  ขณะที่เอวตนเองถูกคนข้างๆโอบไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


"พูดเริ่มจะไม่รู้เรื่องแล้วยังจะคุย" อาการเมาแปลกๆของน้องเพื่อนที่คยูฮยอนสนใจมากกว่าผู้คนด้านนอกที่เวลานี้ต่างไร้เสื้อผ้าติดกาย


"อือ..."


"นอนไหม ... กว่าไอ้ชางมินจะพากลับก็คงเช้า ไม่งั้นก็เกือบเที่ยง"


ขวับ


"...จะลักหลับ..ผมละสิ...ฮยอกแจชี้นิ้วใส่


"ผมเน้นสมยอมทั้งสองฝ่าย...ไม่นิยมปล้ำใคร" 


"เป็นคนดีแบบแปลกๆ เหมือนกันนะคุณน่ะ" พอได้คำตอบจากคนข้างๆ ฮยอกแจก็ทิ้งหัวลงบนไหล่หนาที่ใช้พิงมาตลอดอีกครั้ง


เพราะสติที่ไม่ครบถ้วนหรือเพราะอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่ความใกล้ชิดนี้ไม่ได้ทำให้เขาตะขิดตะขวงใจ


หรือเพราะอาจจะสนใจไม่ต่างกัน?


"จะเอายังไง...จะนอน หรือ..." คำถามที่รู้กันทั้งสองฝ่าย  เมื่อคยูฮยอนเอ่ยถาม


"นี่...ผมไม่ได้ไร้เดียงสาหรอกนะ" เสียงยานน้อยๆ ตอบกลับ  คำตอบที่เผลอพูดออกไปแล้วก็ไม่แน่ใจตัวเองว่า หากมีสติครบถ้วนจะพูดแบบนี้หรือไม่


คำตอบที่เหมือนเป็นการย้ำตัวเองว่า....                 


เขาจะมีสัมพันธ์กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง


"ผมก็ชอบคนเป็นงานมากกว่า...จะได้ไม่เสียเวลา" คยูฮยอนกระซิบบอก  ขณะที่แขนที่โอบรอบเอวบางก็รั้งให้ร่างเล็กข้ามขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัว


ฮยอกแจฉีกขากว้างคร่อมกายลงบนตักหนาโดยง่ายแม้จะรู้สึกแปลกๆกับสัมผัสจากคนที่เพิ่งรู้จัก แต่สถานะของตัวเองที่ไม่มีใครแล้วก็ทำให้ฮยอกแจตัดสินใจได้ง่ายขึ้น


"วันไนท์?" ฮยอกแจถามแม้จะไม่ได้ขืนตัวก็ตาม


"ขึ้นอยู่กับว่า เราเข้ากันได้ดีแค่ไหน" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยตอบ


"ต้องเข้ามาก่อน....งั้นสินะ" คำถามที่เหมือนเป็นการเชื้อเชิญ พร้อมๆกับแขนทั้งสองข้างที่เลื้อยขึ้นไปโอบรอบลำคอ  ใบหน้าเล็กถูกโน้มลงมาจนไร้ช่องว่าง


ช่องว่างระหว่างกันที่ถูกเว้นเอาไว้ คยูฮยอนขยับเข้าไปจนไร้ช่องว่าง แขนข้างหนึ่งสอดอ้อมไปรวบเอวเล็กที่พอได้สัมผัสแล้วจึงรู้ว่ามันเล็กกว่าที่เห็น ดวงตาคมจ้องเข้าไปในลูกแก้วเป็นประกายก่อนที่เรียวปากจะแนบสนิทลงไป


"อืม.."


แอลกอฮอล์ที่แทรกซึมไปทั่วทุกอณูเริ่มออกฤทธิ์ ยามที่ริมฝีปากบางถูกหยอกล้อ ร่างบางได้แต่ครางอื้ออึงในลำคอร่างกายก็เบียดชิดเข้าหากัน คยูฮยอนบดเบียดลงบนริมฝีปากนุ่มคลึงเย้าก่อนจะแทรกเข้าไปกวาดความหอมหวานภายใน ปลายลิ้นนุ่มก็ส่งไปเกาะเกี่ยวกับคนที่ประคองเอวตนเองไว้อย่างอดรนทนไม่ไหว มือหนาลูบไล้ไปตามเอวบางสัมผัสความนุ่มของผิวกายก่อนจะกรีดปลายนิ้วลากไปตามแผ่นหลัง  สัมผัสที่ทำให้กายเล็กสั่นระทวย


“อ่าห์,,,ดี,,,อื้ม,,,จัง”  เสียงหวานร้องบอกผะผ่าวยามที่เรียวปากเป็นอิสระ พร้อมๆกับอาการไหววูบที่ช่องท้อง เรือนกายสั่นสะท้อนเมื่อริมฝีปากเราะร้ายกดจูบดูดดุนผิวอ่อนๆแรงๆจนฮยอกแจต้องร้องครางประท้วง


กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่เวลามอมเมาให้คนตัวโตสูดดมกดจูบไม่เว้นแม้แต่ตารางผิว


มือหนาเคลื่อนมาริดกระดุมเม็ดให้แยกออกจากกันเปิดเผยแผ่นอกบางขาวนวลให้ได้ยลยอดอกชูชันยั่วสายตา


“อ๊าาาาาาา”


เสียงหวานร้องร่า เมื่อลมหายใจร้อนรดรินบนผิวกายพร้อมกับความชื้นแฉะที่ครอบคอรงลงมาอีกทั้งปลายลิ้นร้อนที่ตวัดดูดกลืนจนต้องแอ่นอกเข้าหา


ปฎิกริยาตอบรับที่คนป้อนสัมผัสมองอย่างเพลินตา   มืออีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างเปล่า  ใช้ปลายนิ้วบี้คลึงหัวนมอีกข้างปรนเปรอให้เสียจนฮยอกแจอยู่ไม่สุข


รสสัมผัสที่ซ่านไปทั่วทั้งกายทั้งๆที่แค่สัมผัสภายนอก


“ชันขาหน่อย”  คยูฮยอนร้องบอกพร้อมกับมือที่ยุ่มยามบริเวณกางเกง


คำขอที่ฮยอกแจชันเข่าขึ้นพร้อมๆกับรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร  เมื่อมือหนาปลดกระดุมกางเกงออกพร้อมกับซิบที่กำลังรูดลง


ฟึบ


มือเล็กตะครุบมือหนาไว้ก่อนที่ชั้นในตัวเล็กจะถูกถอดออก  ใบหน้าที่ฉายชัดด้วยแรงอารมณ์จ้องมองอย่างเขินอาย


จุ๊บ


“ไม่ต้องเขิน”  คยูฮยอนจูบเบาๆบนเรียวปาก  ก่อนจะบอกออกไปแล้วยื้อแรงที่ต้านไว้จนเรือนร่างกึ่งเปลือยปรากฎให้เห็นเต็มสองตา


กายบางที่ชันขาคร่อมตัวเองเวลานี้มีเพียงเสื้อที่คลุมอยู่บนกายหากแต่ไม่สามารถปกปิดแผ่นอกที่ช้ำแดงและชูชันได้ ท่อนล่างก็มีกางเกงแนบเนื้อและชั้นในกองอยู่ใต้สะโพกเล็ก ภาพที่ยั่วยวนได้มากกว่าที่คิด


แต่ความยั่วยวนนั้นกลับถูกตัดด้วยสายตาประหม่าที่มองไปด้านข้างโดยไม่กล้าที่จะสบตากับเขา


“อ๊ะ” 


“ไหนๆก็ถอดแล้ว ....ก็ถอดออกให้หมด”  คยูฮยอนว่าง่ายๆ ยามปลดเสื้อที่ถูกริดกกระดุมออกหมดแล้วออกไปจากกายบาง  แต่กางเกงนั้น


“ถอดชิ้นล่างด้วย”


“....”


คำสั่งที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ แม้จะขลาดเขินแต่ด้วยอารมณ์ที่จุดติดแล้ว แต่แอลกอฮอล์ที่แทรกซึมไปทั่วทั้งกายทำให้ฮยอกแจค่อยๆถอดกางเกงนั้นออกทีละข้าง ก่อนที่กายเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์จะคร่อมอยู่เหนือชายหนุ่มร่างหนาที่มีเสื้อผ้าครบถ้วน


มือหนาลูบไล้ปลายนิ้วลงบนต้นขาอ่อนไล่ขึ้นมาภายในซอกขาก่อนจะวกขึ้นไปที่แผ่นท้องเรียบเนียน  อาการกระตุกเกร็งทุกส่วนที่ปลายนิ้วลากผ่านยิ่งทำให้ส่วนที่อึดอัดภายใต้กางเกงยิ่งประท้วง  โดยเฉพาะร่างบางที่เปิดเผยให้เห็นโดยไม่มีอะไรปิดบังในขณะนี้


“คือ...”  เพราะเรือนร่างเปิดเผยทุกสัดส่วน อีกทั้งสายตาที่กวาดมองจนไม่กล้าสบตาด้วย  ทำให้ฮยอกแจไม่รู้จะทำอะไร  ไหนจะส่วนอ่อนไหวที่ฟ้องว่าตนเองมีอารมณ์แค่ไหนกับสิ่งที่อีกฝ่ายรุกเร้า


“หึ...”  เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอเมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงจะอายไม่น้อย  มือหนาค่อยๆถอดเสื้อตนเองออกอย่าไม่ใยดีนักก่อนจะโยนไปอีกทาง  แล้วรั้งกางเกงเนื้อดีรูดออกไปทางปลายเท้า เหลือไว้เพียงบ็อกเซอร์ขาสั้นที่ยังคงบดบังเรือนร่างนี้อยู่


มือหนารั้งเอวเล็กที่ชันขาอู่ให้นั่งทับลงมาเช่นเดิม  หากแต่ผิวกายที่ไร้เนื้อผ้านั้นกลับเสียดสีกับจนสัมผัสได้ถึงความร้อนของผิวกาย


“ทำให้ผมบ้างสิ”  คำขอที่ฮญอกแจเบิกตากว้างถามไร้เสียง  แต่เมื่อพบสายตาจริงจังของคนที่เป็นเบาะให้ตัวเองเวลานี้ฮยอกแจก็ค่อยๆคล้องรอบลำคอหนาอีกครั้งโดยไม่สามารถปฏิเสธได้


เขาทำให้เราแล้ว....แค่ทำคืนเอง


ฮยอกแจกดจูบไปตรงซอกคอ ทำเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายทำให้แม้จะเขินอายแต่ริมฝีปากเล็กก็พยายามทำให้ดีที่สุด


ขณะที่คยูฮยอนที่นั่งเอนกายไปกับโซฟาเชิดหน้ารับสัมผัสที่ดูขัดๆเขินๆ  แต่ก็จุดความต้องการได้ดี  ชิวหาเล็กๆที่แลบเลียไปบนยอดอก ลากลงมาจนถึงแผ่นท้องจนต้องเกร็งรับ


“อืม...”  เสียงทุ้มคำรามต่ำในลำคอเมื่อสะโพกเล็กที่นั่งทับอยู่บนตัวร่อนน้อยๆจนสัดส่วนใต้ร่มผ้าแทบอยากจะโผล่ขึ้นมาสอดแทรกเข้าไปในกายบางเสียทันที


เสียงที่ทำให้ฮยอกแจใจกล้าขึ้นอีกนิดจน...


หมับ



ปลายนิ้วที่เขี่ยขอบบ็อกเซอร์จนเกิดช่องว่าง แต่ก็ถูกจับไว้ด้วยมือหนาก่อนที่มือเล็กจะสอดแทรกเข้าไป


“หึ...ผมชอบคนเป็นงาน”  ว่าจบคยูฮยอนก็จบจูบลงบนเรียวปากอีกครั้งอย่างไม่เบาแรง  พร้อมกันกับฮยอกแจที่ตอบรับทุกองศาอย่างไม่เกี่ยงงอน  ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกดันให้มานอนราบไปบนโซฟาแล้วถูกคร่อมทับด้วยกายหนา


“แต่ผมชอบทำให้มากกว่า”  คำพูดพร้อมรอยยิ้มสุดท้ายก่อนที่ฮยอกแจไม่สามารถตอบอะไรได้นอกจากเสียงหวานที่หลุดรอดออกมาให้ได้ยิน


อ้ะ..คุณ...อึ้ก...ฮยอกแจสะดุ้งเฮือก เมื่อสองขาถูกดันออกกว้าง พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนมือมากอบกำส่วนที่ตื่นตัวแล้วขยับอย่างเบามือ ใบหน้าคมคายก็เงยขึ้นมองร่างเล็กที่หลับตาแน่นอย่างอย่างพอใจ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจูบริมฝีปากเล็กที่กัดปากยั่วในเวลานี้พร้อมๆกับมือที่ขยับเป็นจังหวะ


จูบร้อนแรงที่ฮยอกแจครวญครางอื้ออึงในลำคอ ปลายลิ้นเล็กถูกไล่ต้อนกระชากลมหายใจจนต้องร้องประท้วง ยิ่งร่างกายกำลังถูกสัมผัสจากคนตรงหน้านี้ยิ่งทำให้ร่างกายร้อนยิ่งกว่าเดิม


อื้อๆ... คุณ...


 “เรียกผม คยูคยูฮยอนบอกเสียงพร่าไม่ต่าง ยามที่รั้งกายออกมาแยกขาเรียวให้กว้างออก


แก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่พร้อมกับน้ำเหนียวๆที่ส่วนปลายทำให้ชายหนุ่มรู้ดีกว่าร่างเล็กนี้พร้อมกับการเมคเลิฟขั้นต่อไปแล้ว


ปลายนิ้วเรียวยื่นไปลูบคลึงเข้ากับช่องทางคับแคบอย่างเบามือ การกระทำที่ทำให้ก้นขาวลอยหวืดเหนือโซฟา


“ฮื่อ..อ๊ะ...” ช่องทางรักที่บีบถี่เป็นจังหวะยั่วเย้าให้สอดแทรกอะไรเข้าไป


ภาพสวยงามตรงหน้าที่ยิ่งทำให้มือหนาสะกิดเขี่ยช่องทางนั้น  มองคนที่เชิดหน้าสูงแลบลิ้นเลียริมฝีปากพร้อมกับแผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลงด้วยอาการหอบหายใจแรง


ภาพที่ทำให้คยูฮยอนไม่อาจเล้าโลมคนที่ยั่วตรงหน้านี้ต่อไป


“ผมเข้าไปแล้วนะ”เสียงกระซิบบอกพร้อมกับมือหนาที่รูดบ็อกเซอร์โยนทิ้งไปเพราเกะกะ  กายหนาคร่อมทับลงมาบนร่างเล็กพร้อมๆกันกับที่ดวงตาฉ่ำวาวปรือขึ้นมามองแล้วพยักหน้า


“ขะ..เข้ามา อือ..คุณ..อ๊ะ...คยู” คำตอบรับที่ไร้แล้วซึ่งความเก้อเขิน  มีเพียงร่างกายที่ร้อนจนต้องการความร้อนกว่าเข้ามาบรรเทา  มือเล็กเกาะโซฟาแน่น ยามที่รู้สึกถึงส่วนแข็งขืนแทรกเข้ามาช้าๆ


 “คยู...อ้ะ...อ๊า...อื้อ...นะ..แน่นฮยอกแจบอกเสียงพร่า ก่อนที่ริมฝีปากถูกกดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่องทางสีสดก็กำลังบีบเกร็งเป็นจังหวะถี่เมื่อรู้สึกสิ่งแปลกปลอมที่กดแทรกเข้ามา


เช่นเดียวกันกับชายหนุ่มที่แม้ร่างเล็กจะเคยผ่านกิจกรรมรักมา  แต่ช่องทางนี้กลับแนบแน่นบีบเป็นจังหวะเสียจนปวด


“ผ่อนคลายหน่อย ฮยอกแจ..” 


ร่างเล็กพยายามผ่อนคลายอาการเกร็งของตัวเองลงพร้อมกับความรู้สึกว่าอีกฝ่ายกดแทรกกายลงมาเรื่อยๆจนไร้ช่องว่าง  ความรู้สึกเสียดหากแต่ไม่ได้เจ็บมาก จุกแน่นกับสิ่งที่เติมเต็มเข้ามา


เสียงหอบหายใจดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้องส่วนตัวที่ยังคงมีเสียงเพลงแทรกเข้ามาตลอดเวลา ดวงตาคมก้มมองคนน่ารักใต้ร่างก่อนจะยิ้มถูกใจ 


ถูกใจคนที่กำลังทำหน้าวอนขอ....


ขอรสรักที่ร้อนแรงผ่านสายตาที่ใสซื่อ


 “ขยับ.....ฮื่อ.....


เสียงกระซิบไร้น้ำหนักจากคนด้านล่างทำให้คยูฮยอนจูบเบาๆบนกลีบปากนุ่ม  แล้วรั้งกายตั้งตรงขณะที่กายสองกายเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน  สองมือก็แยกขาวเรียวให้กว้างออกประคองสะโพกเล็กไว้ด้วยสองมือ ก่อนที่จะกระทั้นกายเข้าไปเบาๆ จนฮยอกแจร้องพร่า


เสียงครางหวานๆ ที่ทำให้ชายหนุ่มเริ่มถอนกายออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกายเข้าไปแรงขึ้น แรงบีบกระชับและความอุ่นร้อนที่โอบอุ้มของผนังนุ่มสัมผัสได้ทำให้คยูฮยอนสวนกายเข้าหาแรงขึ้นจนเกิดเสียง


 “อึ้ก...อื้อ...ฮยอกแจกัดฟันจิกโซฟาแน่น เมื่อแก่นกายร้อนผ่าวสอดเข้ามาในกายรุนแรงขึ้น


อ๊าา!!! คยู...อึ้ก...อ๊า...ฮื่อ....” 


เสียงหวานที่ร้องเรียกทำให้คยูฮยอนกระแทกกายเข้าที่จุดๆเดิม เสียงหวานที่หวีดร้องเร่งเร้าความต้องการของคนที่สาวกายเข้าหายิ่งเร่งจังหวะให้รัวแรง โดยที่ร่างขาวก็เรียนรู้ที่จะตอบรับสัมผัสของอีกฝ่ายมากขึ้นทุกขณะ


อาห์...ฮยอกแจ....คุณ... อึ้กๆ...สุดยอด...เสียงคำรามเสียงต่ำ


กายหนาปรับเปลี่ยนท่ามาขนาบไปบนร่างเล็ก ซุกหน้าเข้ากับแผ่นอกบางที่ชูชัน ดูดเม้มหัวนมนิ่มที่แข็งเป็นไตแรงๆ ขณะที่ส่วนล่างก็ยังสอดกายเข้าหาอย่างไม่มีตกพร้อมกับผนังนิ่มที่กำลังตอดรัดอย่างรุนแรง


ใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยความต้องการที่จะปลดปล่อย ใบหน้าที่ทำให้คนที่ปรือตามองอดจะเขินไม่ได้ว่าคนๆนี้กำลังเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับร่างกายของเขา  แววตาที่จ้องมองราวกับเหยี่ยวที่ต้องการจะขย้ำเหยื่อ


แม้จะรู้ว่านี่เป็นเพียงความสัมพันธ์เพียงชั่วคืน แต่เซ็กส์ระหว่างเขากับคนๆนี้ ทำให้ฮยอกแจรู้สึกดีจนไม่สามารถพูดออกมา 


ฮยอกแจ...อาห์...ฮยอกแจ”  สั่น....เรียกทุ้มที่พร่ำชื่อเขาขณะที่กระหน่ำกายเข้ามาในร่างของเขา ทำให้รู้สึกสั่นพร่าไปหมด


 “คุณ...อึ้ก...อ๊า...คยู..ฉันจะ...อ๊าาาาาา!!!!!!!!!!” เสียงหวานหวีดร้องลั่น เรือนกายบิดเกร็งไปหมดเมื่อความต้องการที่มาถึงจุดหมาย ร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มแผ่นท้อง


แข็งบีบกระชับที่ถี่รัวทำให้คยูฮยอนยิ่งรวบร่างเล็กแน่น แก่นกายร้อนก็กดย้ำถี่ๆ ซุกใบหน้าลงที่ซอกคอขาว ก่อนที่คลื่นความสุขจะปลดปล่อยเข้าไปยังร่างเล็กทุกหยาดหยด


“ฮื่อ...” เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ยังคงสะท้อนก้องภายในห้องกว้าง กายเปลือยเปล่าทั้งสองยังคงไม่ได้แยกออกจากกัน ขณะที่คยูฮยอนยังคงพร่ำจูบซอกคอขาวจนขึ้นสีประปราย


“คุณ...” แล้วก็เป็นฮยอกแจที่เอ่ยขึ้นทำให้คยูฮยอนชะงักริมฝีปากที่ดูดเม้มเนื้ออ่อนอย่างไม่รู้จักพอ


“หืม...”  คำเสียงที่ทำให้คยูฮยอนชันแขนขึ้นมามองหน้าก่อนจะยิ้มที่มุมปาก


“เอ่อ...ขยับ...ออกไปก่อนได้ไหม”คำพูดที่ดูเหมือนจะติดขัดกับกายที่ขึ้นสีระเรื่อที่ไม่รู้ว่าเพราะเลือดลมสูบฉีดจากกิจกรรมร้อนๆที่เพิ่งเสร็จสิ้นหรือเพราะอาการเขินที่เข้ามาแทนที่อีกครั้ง


สุดท้ายกายหนาก็ยอมทำตามคำขอ โดยจ้องมองใบหน้าที่เม้มปากแน่นยามที่เขาถอนกายออก


“”สะ..เสื้อผ้า”   เพราะไม่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์ชั่วคราวทำให้ฮยอกแจยิ่งกังวล อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เบาบองลงทำให้มีสติและความนึกคิดมากขึ้นพร้อมๆกับความเขินอายที่มาองรวมบนใบหน้า


คยูฮยอนเอื้อมหยิบบ็อกเซอร์ตนเองมาสวมลวกๆก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าของร่างเล็กที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศมาให้


“ขอบคุณ”


“เดี๋ยว” ก่อนที่ฮยอกแจจะจัดการสวมเสื้อผ้าหนีสภาพน่าอายของตัวเองเสียงเข้มก็เอ่ยห้ามพร้อมกับคำพูดที่ทำให้เขินหนักกว่าเก่า


“คุณ...เอาที่ผมปล่อยไว้ออกก่อนจะดีกว่า”


“เอ่อ...”


“ห้องน้ำอยู่ประตูนั้น” คำบอกที่ฮยอกแจกอดเสื้อผ้าแน่นแล้วมองตาคนตรงหน้า


“โอเคๆ  ผมจะหันหลังให้” เพราะสายตาที่สื่อมา  คยูฮยอนเข้าใจได้ดีว่าคนๆนี้คงจะเขินที่ต้องเดินตัวเปล่าไป แม้เขาจะเห็นทุกส่วนแล้วก็เถอะ


ฮยอกแจก้าวเข้าไปในห้องน้ำพร้อมเสื้อผ้าทิ้งให้เจ้าของสถานที่นั่งอยู่เพียงลำพังพร้อมกับบ็อกเซอร์ตัวเดียวที่สวมติดกาย โยที่ไม่คิดจะสวมเสื้อผ้ากลับเหมือนเดิม


แกร๊ก


ไม่นานนักร่างเล็กก็เดินกลับออกมาด้วยสภาพที่เกือบเหมือนปกติ  ยกเวล้นท่าเดินที่แปลกๆออกไปและสายตาที่ไม่กล้ามองเหมือนปกติ


“ผมว่าผมกลับ”


“นอนที่นี่แหละผมบอกแล้วว่าไอ้ชางมินมันฝากมาว่าไม่ให้คุณกลับก่อน  แล้วเวลาป่านนี้จะกลับคนเดียวมันก็อันตราย


“...”


“เช้าเดี๋ยวผมไปเรียกมันให้ถ้ามันไม่ตื่น ผมไปส่ง”


“ไม่เป็นไร..ผมรอพี่ชางมินก็ได้”


“ถ้างั้น...”  คยูฮยอนเดินไปปรับแสงไฟที่สว่างจ้าให้กลายเป็นไฟสีส้มอ่อนที่ให้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ก่อนจะเดินกลับมาดึงคนที่สวมชุดมิดชิดตามเดิมมานอนกอดบนโซฟาตัวเดิม


“คุณ!!!


“จะตี 2 แล้วนอนได้แล้ว”


“แต่...” 


ฟึบ



ท่อนแขนแกร่งกระชับร่างเล็กให้แน่นกว่าเดิมอีกนิดโดยไม่ตอบโต้ใดๆอีกสุดท้ายเมื่อคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังไม่ยอมปล่อยฮยอกแจก็จำต้องหลับลงด้วยความเหนื่อยอ่อนอย่างช่วยไม่ได้







กลับไปอ่านต่อนะคะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น